มีสิทธิครับ
ลาคลอด ได้ 90 วัน บริษัทจ่ายเงินให้ = 45 วัน เบิกจากประกันสังคมอีก 45 วัน (ถามฝ่ายบุคคลต้องตอบได้แน่นอน)

หากต้องการปรับเงินเดือน ต้องทำดังนี้
1. ขยันทำงานมากๆ
2.เรียนรู้และฝึกฝนฝีมือให้เก่งขึ้นๆ
3.ทำตัวให้เป็นที่รักของนายจ้าง หัวหน้างาน และเพื่อนร่วมงาน

เมือทำ 3 อย่างแรกดีแล้ว สอบถามเรื่องการปรับเงินจากนายจ้าง.... รอเวลาแล้วถามอีก...(อดใจรอ)

สุดท้าย...หากไม่ได้ปรับเงิน ลาออกซะเถอะ ยังมีที่ทำงานใหม่ดีๆอีกมากมาย จะรอจะง้อไปทำไม  

ที่สำคัญ..เราต้องมีดี เพราะเรื่องดีๆ จะมีไว้สำหรับคนดีๆๆๆๆๆ เท่านั้น (กฎแห่งกรรมขั้นพื้นฐาน)

ตอนนี้ส่วนราชการกำลังจะปรับเปลี่ยนการจ้างลูกจ้างชั่วคราวหรือลูกจ้างโครงการ มาเป็นแบบการจ้างเหมาบริการเป็นรายบุคคลของกรุงเทพมหานคร(ไม่ใช่บริษัท) เพราะเป็นหน่วยงานราชการ อยากทราบว่าจะมีสิทธิ์ลาคลอดไหมคะ จากที่เคยเป็นลูกจ้างกทม.ที่ได้รับสิทธิประกันสังคมและสิทธิลาพักร้อน ฯลฯ ตามระเบียบแต่ตอนนี้กำลังจะเปลี่ยนแล้ว หากต้องการส่งเงินสมทบประกันสังคมต้องส่งเองตามมาตรา 40 และดิฉันก้อใกล้คลอดแล้วและจะหมดการจ้างลูกจ้างกทม.ภายในสิ้นเดือน  มี.ค.นี้ จะเปลี่ยนการจ้างเหมาบริการเริ่มเดือนเมษายนจะไม่ได้รับสิทธิเหมือนการเป็นลูกจ้างหน่วยงานราชการอีกต่อไป ดิฉันจะลาคลอดเดือนมิ.ย.นี้  รบกวนช่วยตอบให้หน่อยนะคะ

ลูกจ้างจ้างเหมาบริการ เป็นลูกจ้างจ้างเหมาตามชิ้นงานเหมือนกับผู้รับเหมา รับจ้างทำของทั่วไป การจ้างจ้างตามระเบียบพัสดุ (จ้างทำของ) คือ ถ้ามีการส่งมอบงานตามที่ตกลง ก็เบิกจ่ายค่าจ้างให้ แต่ถ้าขาดส่งงาน(ไม่ได้มาทำงาน) หน่วยงานก็ไม่สามารถเบิกจ่ายค่าจ้างได้ เป็นการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานต่างๆที่อัตรากำลังไม่พอ ไม่ได้รับการจัดสรรงบบุคลากร ก็เอางบดำเนินงานมาจ้างคนมาทำงานให้แทน แต่คนเหล่านั้นก็ไม่ถือเป็นบุคลากรของหน่วยงาน เป็นเหมือนผู้รับเหมา ที่รับเหมาทำงาน ส่วนมากสัญญาจ้างจะระบุไว้เลยว่าจ้างทำอะไร ปริมาณงานเท่าไร และต้องมีรายงานส่งมอบงาน มีกรรมการตรวจการจ้าง ตามระเบียบพัสดุทุกอย่าง ดังนั้น ถ้าไม่มีการส่งมอบงาน ก็ไม่สามารถตรวจรับและเบิกจ่ายได้ค่ะ (แถมส่วนมากสัญญาจ้างจะระบุด้วยว่าถ้าไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนดจะถูกปรับวันละเท่าไร แต่ในทางปฏิบัติก็ไม่เคยเห็นมีที่ใดปรับนะคะ)

ตอบไม่ตรงคำถาม พนักงานจ้างเหมา หน่วยงานราชการ ลาคลอดได้เปล่า เบิกเงินได้เปล่า

เขาให้ไปคิดเอาเองงัยค่ะ ถ้าคิดได้ก็จะรู้ว่า ไม่สามารถลาได้ เพราะถ้าลา ก็ไม่มีการส่งมอบงาน ก็เบิกค่าจ้างไม่ได้

 น้องที่ถาม..เพราะแล้วที่ทำงานจ้างเหมาบริการ.. ไม่เหมาะทำงานอยางอื่นหรอก

การที่ตอบ แบบให้คิด..และสุภาพ เป็นการตอบที่ดีแล้ว...

 แสดงว่าการที่เค้าจ้างเราเป็นแค่อัตราจ้างชั่วคราวแบบเหมาบริการ เราก็แค่ทำงานไปเป็นรายเดือนก็แค่นั้น ไม่เห็นมีความสำคัญอะไรเลย น่าสงสารตัวเองจริงๆๆ สิทธิในการลาก็ไม่มีอะไรสักอย่าง ประกันสังคมก็ยังไม่มีให้ ใครเป็นเหมือนเราบ้างเนี่ย คิดแล้วท้อจัง

เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการ จ้างเหมาบริการเหมือนกัน ตอนนี้ใกล้คลอดแล้วเหมือนกัน หน่วยงานให้หยุดงาน 1 เดือน โดยไม่ได้รับค่าจ้าง หลังจากนั้นค่อยกลับมาทำงานได้ใหม่ เป็นแบบนี้ทั่วประเทศค่ะ ดีนะที่หน่วยงานเราเค้ายอมให้กลับมาทำงานได้อีก บางหน่วยงานเค้าจะรับสมัครคนใหม่ไปเลย เพราะเค้ามองว่า 1 เดือนที่เราหยุดงาน ไม่มีใครมาทำหน้่าที่ งานก็จะหยุดชะงักลง เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ ต้องทำใจนะ แต่สำหรับเราที่ทำก็เข้าใจและยอมรับในระเบียบและข้อตกลงของการจ้างหมาบริการดี ตามที่คุณ ความคิดเห็นที่ 3 อธิบายไว้ถูกต้องดีแล้ว หากว่าเราไม่พอใจในข้อตกลง เราก็ต้องดิ้นรนตนเอง พยายามสอบงานที่อื่น ตำแหน่งอื่นให้ได้ อย่างเช่น ข้าราชการ พนักงานราชการ หรือเลือกสอบตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราว ซึ่งจะมีสวัสดิการรองรับ เราสามารถลาคลอดได้ 3 เดือนเงินเดือนก็ได้รับทุกเดือน แต่ถ้าเลือกสอบตำแหน่งลูกจ้าง จ้างเหมาบริการ คุณก็ต้องทำความเข้าใจ และทำใจในเงื่อนไขนี้ ไม่มีใครบังคับเรานะคะ

เหรอค่ะ

แล้วลูกจ้างเหมา ไม่ใช่คนเหรอค่ะ ทำไม่ไม่ไดสิทธิ์ บ้าง ประกันสังคมยังไม่มีเลย เราก้ต้องกินต้องจ่ายเหมือนกับ พนักงาน ข้าราชการ เหมือนกัน ถ้าจะไม่ใให้ลาคลอด บ้าง ก็น่าจะให้สิทธ์ อะไรบ้าง  ลาป่วย ลากิจ ลาคลอด ประกันสังคมไม่ได้ เบิกอะไรก็ไม่ได้ ทำงานก็หน่วยงานเดียวกัน ทำไมไม่ให้บ้าง ค่ะ

        น่าเห็นใจลูกจ้างเหมาบริการนะครับ เพราะเคยประสบปัญหานี้มาเหมือนกัน ซึ่งถ้าอ้างอิงถึงกฏ ระเบียบแล้วก็ไม่อ่านโต้เถียงได้เลยว่าหลายๆ ท่านกล่าวได้ถูกต้องครับ แต่จะขอถามหน่อยนะครับว่าในชีวิตความเป็นจริงแล้ว หลายๆ ท่านที่เป็นข้าราชการก็ดี พนักงานราชการก็ดี ลูกจ้างชั่วคราวก็ดี คุณได้ใช้สิทธิ์ต่างๆ ที่ทางราชการมอบให้เกินไปหรือป่าวครับ ?? สิทธิ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลาป่วยก็ดี ลากิจก็ดี ลาพักผ่อนก็ดี ฯลฯ ผมเชื่อว่าสิทธิ์ในส่วนนี้ทุกท่านที่สามารถมีสิทธิ์ก็จะใช้สิทธิ์กันทุกคน แต่ในความเป็นจริงแล้วผมสังเกตว่าน้อยคนนักที่จะใช้สิทธิ์นั้นๆ ที่ตัวเองได้รับอย่างสมเหตุสมผล ตัวอย่างเช่น ข้าราชการท่านหนึ่งออกไปธุระส่วนตัวข้างนอกครึ่งวัน โดยกลับมาทำงานในหน้าที่แค่ครึ่งวัน จากเหตุการตัวอย่างนี้ผมเชื่อว่ามีหลายท่านจำนวนมากที่ทำแบบนี้และมีทุกองค์กรแน่ๆ แบบนี้ทำไมคุณไม่ใช้สิทธิ์ลาไปเลยล่ะครับ เอาเปรียบหลวงเกินไปหรือเปล่า / และอีกหนึ่งตัวอย่างก็คือ การที่บุคคลนั้นๆ เข้ามาทำงานเป็นลูกจ้างเหมาฯ คุณอย่าเพิ่งไปคิดแทนเค้าซิครับว่าเค้าไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีความสามารถ คุณเอาอะไรมาตัดสิน ?? เพียงเพราะเค้าเหล่านั้นเป็นลูกจ้างเหมาหรอครับ ถามเค้าซักคำหรือเปล่าว่าพวกเค้ามีเหตุผลหรือเหตุจำเป็นอะไรที่เลือกมาเป็นลูกจ้างเหมา

       มีหลายองค์กรที่ผมเจอกับตัวเองเลย คือ ข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่พวกคุณบอกว่ามีสิทธิ์ตามชอบธรรมนู้น นั้น นี่ ทั้งหลายที่พวกคุณภาคภูมิใจ แต่วันๆ กลับนั่งเล่น Facebook, เล่นเกมส์, นั่งแต่งหน้า, จับกลุ่มเมาส์คนนู้นทีคนนี้ที สารพัดทุกรูปแบบ แต่ลูกจ้างเหมาที่พวกคุณหลายๆ ท่านกำลังดูถูกดูแคลนกันอยู่นี่แหละครับ ที่นั่งทำงานให้งกๆๆ วันๆ แทบไม่ได้เงยหน้ามองดูโลกเลย ขอโทษนะครับข้าราชการหลายๆ ท่านยังมาใช้ให้ลูกจ้างเหมาฯ นั่งทำระบบประเมินทั้งหลายแหล่ที่พวกเค้าเหล่านั้นจะได้ขั้น ได้เงินเดือนเพิ่มอยู่เลย ซ้ำร้ายกว่านั้นข้าราชการบางท่านก็แทบจะทำอะไรไม่เป็นเลยก็มี

        ผมมีโอกาสเคยร่วมงานกับข้าราชการท่านหนึ่งซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูง ท่านเองยังเคยพูดเรื่องเหล่านี้กับผมอยู่บ่อยครั้งว่า "งานต่างๆ ของราชการนั้น ต้องขอขอบคุณพวกลูกจ้าง ที่มาช่วยให้งานเหล่านั้นประสบผลสำเร็จไปได้ด้วยดี หากไม่มีพวกเค้า งานก็จะเกิดความล่าช้า หรือไม่สำเร็จก็เป็นได้" ผมจึงมองว่าปัจจุบันงานราชการไม่ได้ให้สิทธิ์แค่คนเก่งหรอกครับ แต่มันให้สิทธิ์กับผู้ที่มีเส้นมีสายมากกว่า ใครประจบประแจงเก่งก็ได้ดีกันทั้งนั้น เหตุผลที่ต้องยกตัวอย่างเพราะเห็นบางกระทู้นั้นแสดงความคิดเห็นเชิงดูถูกลูกจ้างเหมาฯ จนเกินไป ของแบบนี้ถ้าไม่เจอกับตัวเองก็คงจะไม่มีทางรับรู้ได้หรอก ลองถอดหัวโขนที่พวกคุณๆ ใส่อยู่ออกบ้าง แล้วจะพบว่าคนข้างๆ ที่มีอยู่นั้นมีความสำคัญกับคุณแค่ไหน ??

         ต้องขออภัยด้วยนะครับ หากความคิดเห็นดังกล่าวของผมไปกระทบ หรือทำให้ใครไม่พอใจ แต่ผมขอย้ำอีกครั้งนะครับว่า ในโลกของความเป็นจริงนั้น "สิทธิ์" ไม่ได้บ่งบอกถึงความเป็นคนเก่งหรือคนดีหรอกนะครับ ความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ความเอื้ออาทรต่อกันเท่านั้นที่จะทำให้ทุกท่านเกิดความผาสุขในองค์กรได้

 อีกเรื่องนะค่ะ ...ลูกจ้างจ้างเหมาบริการของหน่วยงานราชการ รับจ้างปฎิบัติงานตามชิ้นงานจ้าง ปฏิบัติตามสัญญาที่ตกลงกันไว้กับหน่วยงาน จะให้สืิทธิ์ใดๆ ก้อเขียนกันไว้ในสัญญา และปฏิบัติตามนั้น แต่...แต่ระวังนะค่ะ หัวหน้าหน่วยงานจะใช้ดุลยพินิจ จัดทำสัญญาที่ทำให้ราชการเสียหาย หรือเสียประโยชน์ไม่ได้ เช่น จ้างเหมาเป็นกรรมการกีฬาต่างๆ เช่น ฟุตบอล เทตนิต ฯลฯ อัตราค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท แต่หน่วยงานใจดีเขียนสัญญา ให้เบิกค่าตอบแทนในการเป็นกรรมการกีฬาได้ ค่าเดินทางไปสนามเบิกได้อีก ค่าเบี้ยเลี้ยได้อีก อย่างนีถูกต้องหรือ แล้วเงินที่ได้รับ 15000 หละ เป็นค่าอะไร ต้องทำอะไรบ้าง กับค่าจ้าง 15000 ระวังกันไว้นะค่ะ

 ลูกจ้างเหมาบริการ ลาพักร้อนได้มั้ยค่ะ

 หน่วยงานเรามีสิทธิ์ลาคลอดค่ะแต่จะไม่ได้เงินเดือนตอนลาแล้วให้เข้าทำงานต่อเมื่อพร้อมทำงานในตำแหน่งเดิมเงินเดือนเท่าเดิม

 จ้างเหมาบริการ ห้ามเจ็บ ห้ามป่วย ห้ามลา ไม่มีประกันสังคม 33,39 มีแต่ 40 ทำเองไม่ มีโอที ไม่มีสวัสดิการอะไรทั้งสิ้น

 สิท

 ขอตอบน่ะ  จ้างเหมา  ไม่ต้องลา   ค่ะ  แค่เอางานมาส่ง แล้ว  ก็     ตรวจรับ    ผ่าน  รับเงินเลย

แต่ส่วนใหญ่  สำนักงานเข้าใจผิด  เห็นมาทำงานสำนักงานทุกวัน  กลับเข้าใจว่าให้เข้ามาทำงานสำนักงานด้วย (ผิดวัตถถุประสงคฺ์การจ้าง)

จ้างเหมา  คือจ้างทำ  1  อย่าง  (ไม่ใช่จ้าง  เหมาทำทุกอย่าง)

จ้างเหมาของเราคือจ้างทำ งานวิจัย   ค่ะ   ส่งงานวิจัยเสร็จ   สำนักงานก็เบิกจ่ายให้ค่ะ    

แต่ที่ทำทุกวันนี้คือ   ทำงานอื่นๆ   ของสำนักงานที่ไม่ใช่งานวิจัย   สนง.เลยเข้าใจ  ตีความหมายผิดไปว่า

คุณต้องมาทำงาน  สำนกังานให้ด้วยน่ะ...........ซื่งที่จริงมันไม่ใช่    

**************ที่คุณใช้เค้า   มันเกินหน้าที่จ้างเหมา  แล้วค่ะ*******************

ยกเว้นกรณีจ้างเหมา    มาทำงานบริการ   ถ้าหากลา  ขาด  มันจะเสียหายต่อหลวงค่ะ............... อันนี้จึงไม่ให้ลาให้ออกเลย

 พิมพ์ผิด  เสียหาย  ต่อรัฐค่ะ

 ตามกฎหมายแรงงาน   หากผู้บังคับบัญชา (นายจ้าง)  สามารถบังคับบัญชาให้ทำงานอื่นๆ  นอกจาก   จ้างเหมา(ตามระเบียบจ้างเหมา)

สั่งให้  ลูกจ้าง (จ้างเหมานั่นแร่ะ)   ทำเกินหน้าที่ที่จ้างเหมามาทำ  1  อย่าง    ถือว่า      ผู้บังคับบัญชา  ประหนึ่งเป็น  นายจ้าง  และ  ลูกจ้าง

แล้วค่ะ   ............ตามข้อนี้     ศาลพิพากษา  ให้คุณ     ต้องจ่ายประกันสังคม   ส่งเงินสมทบเข้าประกันสังคม มาตรา 33  ให้ลูกจ้างค่ะ

เพราะถือว่าเป็น   นายจ้าง  ลูกจ้าง  (จะมาอ้างว่าเป็นจ้างเหมาะตามระเบียบพัสดุ  มิได้  เพราะในข้อเท็จจริง   คุณสั่งให้เค้าทำงานอื่นๆ  นอกจากจ้างเหมา  1  ชิ้นงานนั้น......................จึงเข้าหมวด    นายจ้างลูกจ้าง ตามกฎหมายแรงงาน  ...ดังนั้น นายจ้างจึงต้อง แจ้งลูกจ้าง (เหมา)  นี้เข้าเป็นผู้ประกันตนประกันสังคม มาตรา  33  ด้วย   มาตรา  33  มีสิทธิ์ลาคลอด  3  เดือน   

เช่น  กรณีที่  1 จ้างเหมา  พนักงานขับรถยนต์   แต่คุณเห็นพนักงานขับรถยนต์นั่งอยู่คุณใช้เค้าไปส่งหนังสือ   ลงรับหนังสือ   ทำงานธุรการ  (น้อยมากก็แล้วแต่)   ทำงานอื่นๆ  นอกจากขับรถยนต์ ที่คุณจ้างเหมาเค้ามาขับ  แค่  1  ชิ้นงาน  แแบบนี้   ถือว่าคุณให้เค้าปฏิบัติหน้าที่เกินจ้างเหมา   คุณไปสั่งงานเกินจ้างเหมาที่จ้างมา   ถือว่าคุณ  เป็นนายจ้าง   นายจ้างก็ต้องส่งสมทบประกันสังคมให้ลูกจ้าง     

   กรณีที่  2  คุณจ้างเหมา  มาทำงานแบบสำรวจ ข้อมูล  1   ชิ้นงาน    เมื่อเค้าสำรวจเสร็จเค้าก็รับเงินไป   แต่คุณให้เค้ามาทำงานทุกวันทีสำนักงาน  แล้วให้เค้าช่วยลงรับหนังสือ  ทำงานธุรการโครงการๆ   ต่างๆ  ของสำนักงาน   อันนี้   ผิดวัตถุประสงค์จ้างเหมาแล้ว     คุณสั่งให้ทำอย่างอื่น  คุณต้อง   จ่ายประกันสังคมให้เค้า

โอเค  น่ะ.................สรุปคือให้ว่าไปด้วยข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น.................อย่าว่าด้วยคำนิยาม   แค่คำว่า  จ้างเหมา   

บ้านเมือง  เราทำอะไรกันอยู่    ......ถ้าคุณเห็นความสำคัญของคนที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร  แม้มันจะเป็นจุดเล็กๆ ก็ตาม  ประเทศชาติเราจะเจริญได้..........แต่ถ้าคุณคิดแค่ว่า  จ้างเหมา    ไม่ได้หรอก  ไม่มีสิทธิ์อะไร     ประเทศชาติก็คงอยู่อย่างนี้ล่ะ................

ปล.ประเทศไทยควรปรับกฎหมาย   และคนที่เป็นผู้บังคับบัญชาคน  ก็ควรเสนอเรื่องนี้เข้าที่   ประชุมพิจารณา เป็นวาระ  ด้วย      

 สอบถามค่ะ...ทำงานในตำแหน่งของจ้างเหมาบริการ เหมือนกันค่ะ...ตอนที่คุยกันวันทำสัญญา เค้าก็อธิบายไว้ว่า เราจะได้สิทธิวันลา ปีละ 5 วัน แต่ต้องหลังจากที่ทำงานมาแล้ว 6 เดือนแล้ว และก่อนจะครบ 6 เดือน หากมีการลางานต้องหักเงินวันละ 500 บาท ซึ่งพออธิบายแบบนี้เราก็เข้าใจว่า ก่อนจะครบ 6 เดือน ลางานก็หักไปเรายินดีให้หัก เพราะถือว่าไม่ได้ทำงานให้เค้า..ก็เหมาะสม พอทำงานครบหกเดือนแล้วเราก็จะได้สิทธิลาเหมือนมนุษย์เงินเดือนปกติ...แต่ปรากฏว่า..พอทำงานครบ 6 เดือนไปแล้ว..พอลางานเค้าก็ยังหักเงินวันละ 500 บาทเดิมค่ะ..เค้าบอกว่าเราใช้สิทธิวันลาที่บอกว่าให้ปีละ 5 วันไปแล้ว...โดยนับสิทธิวันลาของเราตั้งแต่เริ่มทำงาน สรุปว่า ก่อนหน้า 6 เดือนนั้น เราถูกใช้สิทธิวันลาปีละ 5 วันและถูกหักเงินด้วยไปพร้อม ๆ กัน..กลายเป็นวันสิทธิวันลาปีละ 5 วัน นั้นไม่ได้มีความหมายใดเลย...ตามระเบียบแล้วเป็นแบบนั้นเหรอคะ...สอบถามเพื่อนร่วมงานอีกคนที่เป็นจ้างเหมาบริการเหมือนกัน ...เค้าบอกว่าก่อน 6 เดือนเค้าก็ถูกหักเป็นปกติ..แต่หลังจากครบ 6 เดือนแล้ว เค้าก็ได้สิทธิลา 5 วัน ไม่โดนหักเงิน และพอลาเกิน 5 วันไปแล้ว จำนวนวันที่ลาเกินกว่า 5 วัน ก็ถูกหักเงินคิดตามจำนวนวันลา...จึงสงสัยว่า..ระเบียบที่ถูกต้องจริง ๆ แล้วคือแบบไหนกันแน่...ทำไมเราได้สิทธิไม่เหมือนกับลูกจ้างเหมาคนอื่น ๆ..รบกวนขอทราบระเบียบที่ถูกต้องได้ไหมคะ..และจะไปหาข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมเรื่องระเบียบที่ว่าจากที่ไหนได้บ้าง..ขอบคุณมากค่ะ

 แล้วใครจะเป็นผู้แก้ไขให้ักับลูกจ้างเหมาบริการหละ

 อย่างนี้ ถ้าเกิดว่าพนักงานจ้างเหมาไม่สามารถลาคลอดได้ มันไม่ขัดกับกฎหมายแรงงานหรอคะ

 เราก็คนหนึ่งที่กำลังจะถูกเลิกจ้างเพราะคลอด เพราะทำงานเป็นจ้างเหมา ตำแหน่งบรรณารักษ์ ห้องสมุดฯ ได้รับแจ้งมาว่าให้ลาออก จึงอยากถามว่า ทำไมเราไม่มีสิทธิ์ลาคลอดอย่างนั้นหรือ คือคุณจะไม่ให้เงินเดือนเราก็ได้ แต่ไม่ต้องลาออก เพราะการลาออกเท่ากับว่าเราตกงานและเราจะหางานใหม่ได้อีกไหม ไหนจะ คชจ. ที่จะต้องใช้อีก ยาวนานเท่าไหร่ยังไม่รู้หากกรณีที่หางานไม่ได้

 ตอนนี้ ลาออกยังค่ะ  คุณ คห.24

 แล้วกรณีเป็นจ้างเหมาบริการถ้าไม่มีสิทธิ์การลาอะไรเลยกรณีคลอดบุตร ถ้าหัวหน้างานให้เราหยุดได้โดยไม่บอกต้นสังกัดได้มั้ยคะจะเบิกเงินคลอดบุตรได้มั้ยคะ

 ถูกระเบียบแต่ผิดกฏหมาย สงสารตัวเองเหมือนกันค่ะที่เป็นได้แค่ จ้างเหมาบริการ สิทธิ์ประกันสังคมยังไม่มีเลย สุดท้ายความรู้ที่เรียนมา ความสามารถที่มีมันไม่มีค่ากับองค์กรเลยหรือค่ะ

 สามารถเรียกร้องความเป็นธรรมกับพนง.จ้างเหมาได้ไหมครับ นีมันยุค 2019 แล้ว ความเท่าเทียมต่างๆต้องมี 

 จ้างเหมาให้คุณคิดส่าเราทำไปก่อน  หางานใหม่ที่กว่าไปพลางๆ บางส่วนก็บ่น บางส่วนไม่เคยบ่นนะคะ หาประสบการ  ความรู้ใส่ตัว เพื่องานใหม่ อย่าคิดมากเลยดีกว่าอยู่ว่างๆ นะคะ  บทบาทตำแหน่งงานมันไม่เหมือนกัน  ต้องเข้าใจงานของคุณด้วยนะคะ  #ก่อนมาสมัครคุณน่าจะทราบดีว่ามันเป็นแบบนี้ แสดงว่าคุณยอมรับกฎอยู่ ใช่ไม่คะ  ถ้าทำให้ขุ่นเคืองขออภัยด้วยค่ะ#

 ใช่ค่ะ ความคิดเห็นที่ 12 เป็นจ้างเหมาเหมือนกัน คุณพูดมาทุกอย่างถูกต้องหมดเลยค่ะ แล้วตอนนี้ใกล้คลอดเหมือนกันแต่ไม่มีสิทธิ์ ท้อบ้างแต่ทำไงได้ งานมันหายาก 

 อย่างนี้สิทธิ์ในการลา ป่วย ลากิจ พักร้อน ควรจะมี มันคือพื้นฐานในการทำงานนะครับ ส่วนประกันสังคมเดี๋ยวหาทำประกันชีวิตรายปีเอาเอง แหม่ น่าอนาจใจจริงๆ ส่วนการเซ็นชื่อถ้าจ้างเหมาไม่ต้องเซ็นหรอกครับดูเป็นเนื้องานดีกว่า ยิ่งเซ็นชื่อก็เหมือนเราทำงานประจำ ทำไมไม่เช็คจากการทำงานไปเลยวันไหนมีงานค่อยเข้า วันไหนไม่มีงานที่รับผิดชอบให้หยุด แบบนี้จะสมเหตุสมผลกับพนักงานจ้างเหมามากกว่า จะได้มีต้นทุนชีวิตในการทำอาชีพเสริมเพื่อเลี้ยงปากท้อง แบบนี้ผมว่าดีขึ้นทั้งสองฝ่าย? วินๆทั้งคู่เห็นๆ แต่ถ้ายังให้เซ็นชื่อเข้างานทำงานสำนักงานทั้งวันโดยผิดวัตถุประสงค์จากการจ้างเหมา มันก็คล้ายๆระบบทาส ดีๆนี้เอง .