การยื่นจดหมายลาออกไปแล้ว เป็นการแสดงเจตนารมย์ขอบอกเลิกสัญญากับนายจ้างถือมีผลใช้บังคับเลย สัญญานั้นบอกเลิกไม่ได้ หากบอกเลิกไปแล้ว เปลี่ยนใจ แต่นายจ้างไม่ยินยอม หนังสือลาออกก็ยังมีผลอยู่

ปกติหากบอกยกเลิกหนังสือลาออก และนายจ้างยินยอม นายจ้างก็จะคืนหนังสือลาออกนั้นคืนมา ก็ถือว่าไม่มีการลาออก

หากไม่คืน นายจ้างก็สามารถให้หนังสือลาออกนั้นมีผลต่อไปได้

หากการลาออกยังไม่ถูกยกเลิกโดยนายจ้าง ถือเป็นการลาออก ไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้าง ก็จะไม่ได้ค่าชดชเยตามกฎหมาย

คือว่าเจ้านายคนใหม่คืนใบลาออกตัวจริงมาค่ะ แต่ไม่ทราบว่าเค้าถ่ายเอกสารไว้หรือเปล่า ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

คงต้องไปคุยให้ชัดเจนว่าจะเอาอย่างไรเรื่องนี้ จะถ่ายไว้หรือไม่ ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่การคืนใบลาออกมาแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะเปลี่ยนใจไม่ได้ ทางที่ดีก็คุยอีกครั้งหนึ่งแล้วกัน อย่างไรก็ตามหากคุณตัดสินใจลาออกแล้ว ก็เดินไปข้างหน้าดีกว่า โอกาสยังมีอีกมาก 

คืออยากทราบว่ากรณีอย่างนี้ เราลาออกเอง หรือว่าเค้าไล่เราออก (เอกสารลาออกเค้าเอาคืนให้แล้ว) แล้วจะได้เงินชดเชยหรือปล่าวค่ะ

       เมื่อการแสดงเจตนามีผล ทั้งผู้เสนอ(คือเรา)และผู้สนอง(เจ้านาย)ก็ถือว่าสมบูรณ์บังคับได้ตามกฎหมาย จากกรณีปัญหา จะเห็นได้ว่า เราได้ขอลาออกเอง(ตามเจ้านายเก่า)เมื่อเขาอนุมัติหรือไม่อนุมัติ(การอนุมัติหรือไม่อนุมัติไม่มีผลกับการลาออก ถ้าเจตนาในการต้องการออกนายจ้างจะบังคับเราอยู่ไม่ได้ เพียงแต่นายจ้างต้องการสำรวจว่ามีอะไรที่จะต้องส่งมอบกันหรือไม่,เราต้องคืนของให้เขาหรือไม่ฯลฯ )โดยปกติเมื่อการเเสดงเจตนาต่อผู้มีอำนาจแล้วก็มีผลสมบูรณ์จะเพิกถอนไม่ได้

       ต่อกรณีว่า ถูกไล่ออกหรือว่าสมัครใจลาออก..? พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เป็นการสมัครใจลาออกของเราเอง เมื่อเป็นการลาออกจึงไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชยตามกฎหมาย..ฟันธง..

       ข้อสังเกตุ  การที่นายจ้างใหม่อยากให้เราทำงานต่อไปโดยคืนต้นฉบับเอกสารใบลาออกให้เรา(แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาถ่ายเอกสารไว้หรือไม่) ก็สันนิฐานว่าเขาจะเริ่มนับอายุงานเราใหม่โดยไม่ไปรวมกับอายุงานที่เราทำงานมา สรุปก็คือ คุณคือพนักงานใหม่นั่นเอง นอกเสียจากคุณจะพูดคุยและตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะนับอายุงานต่อไปหรือไม่(ถ้าเขาไม่ทำก็แสดงว่าเขาจะเริ่มนับ1ใหม่แน่นอน)ถ้าเขาโอเค ก็ถือว่าเขาไม่ติดใจในใบลาออกของคุณแล้วครับและจะยกเอาเหตุการเขียนใบลาออกมาอ้างมิได้....หวังว่าคงจะกระจ่างนะครับ...โชคดีครับ...