ก่อนอื่นต้องถามว่า บริษัท มีคณะกกรมการลูกจ้างหรือไม่ หากมีประธานสหภาพแรงงานเป็นหนึ่งในกรรมการลูกจ้างหรือไม่ และการลานั้นเข้าข่ายตามมาตรา 102 หรือไม่ แต่ทั้งนี้ต้องดูระเบียบข้อบังคับในการทำงานของนายจ้างประกอบด้วย

 หากคำตอบว่า มี และเป็น ก็ต้องขออำนาจศาลในการลงโทษทางวินัย

หากคำตอบว่า มี แต่ไม่เป็น ก็ไม่ต้องขออำนาจศาลในการลงโทษทางวืนัย สามารถทำการสอบสวนและพิจารณาโทษได้ตามที่เห็นสมควร ตามระเบียบข้อบังคับในการทำงาน ได้เลย

แต่หากเป็นกรรมการลูกจ้างด้วย ก็ต้องขออำนาจศาลอนุญาตให้ลงโทษทางวินัยได้หรือไม่

หากไม่เคยไปที่ศาลเลย ก็ต้องไปพบนิติกรศาลแรงงาน ไปเขียนคำร้องขอลงโทษทางวินัยกรรมการลูกจ้าง ซึ่งมีแบบฟอร์มของศาลเรียบร้อย นำเอกสาร

1. ใบลาของกรรมการลูกจ้างผู้นั้นไป และหากผู้บังคับบัญชาไม่อนุญาต ในใบลานั้น ก็ให้ลงนามไว้ว่าไม่อนุมัติด้วยเหตุใด

2. ระเบียข้อบังคับในการทำงาน

3. หนังสือที่ต้องการลงโทษทางวินัย

4. บรรยายในคำร้องให้ชัดเจน

5. บันทึกเวลาเข้าออกของพนักงานผู้นั้น

คงเพียงพอในการร้องขอเพื่อลงโทษทางวินัย

บริษัทมีกรรมการลูกจ้างและประธานสหภาพก็เป็นกรรมการลูกจ้างด้วย รู้สึกว่าเขาจะเป็นผู้พิพากษาสมทบฝ่ายลูกจ้างด้วยค่ะ ที่ผ่านมาเขาจะทำอย่างนี้ประจำหัวหน้าก็ไม่กล้าพูดมาก ตอนนี้เปลี่ยนผู้บริหารต่างชาติชุดใหม่เขาเข็มงวดมากก็เลยมีปัญหาค่ะ หากเขาจะอ้างว่าทำอย่างนี้มานานแล้วเป็นหลายปี ศาลจะดูว่าเป็นเรื่องปกติของนายจ้างไปหรือเปล่าคะ หนูรู้สึกหนักใจค่ะ เหมือนกับมันกำลังจะมีปัญหาค่ะ

เป็นปัญหาแน่นอนครับ การทำอย่างที่เคยทำมา ไม่ใช่ข้ออ้างที่สามารถทำได้อีกต่อไป หากมีระเบียบข้อบังคับในการทำงาน ก็ต้องปฏิบัติโดยเฉพาะกรรมการลูกจ้าง กรรมการสหภาพแรงงานต้องประพฤติตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีของพนักงานและต้องเคร่งครัดกฎระเบียบมากกว่า

อย่าไปกลัวว่าเป็นผู้พิพากษาสมทบแล้วจะได้สิทธิเหนือคนอื่น ผู้พิพากษาสมทบถูกเลิกจ้างก็มี หากฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับในการทำงาน

คุณต้องเตรียมตัวเตรียมใจไว้ เพราะหากคุณเริ่มทำตามกฎระเบียบ ย่อมหมายความว่า คุณจะได้รับการท้าทายที่มากขึ้น แต่หากเคร่งครัดในกฎระเบียบและว่ากันตามครรลองที่ถูกต้องก็สามารถผ่านพ้นไปได้

เป็นกำลังใจให้ครับ

ขอบคุณท่านที่ปรึกษามากค่ะที่เป็นกำลังใจให้ วันนี้ 10 โมงจะไปศาลแล้วค่ะ หากมีปัญหาอะไรจะรบกวนอีกนะคะ ขอบคุณค่ะ

ไม่ทราบว่าผลในวันนี้เป็นอย่างไรครับ

ศาลนัดสัปดาห์หน้าค่ะ นิติกรเขายุ่งมากมีคนมาใช้บริหารเยอะค่ะ ก็ได้ผู้รู้ที่ไปยื่นเรื่องในทำนองเดียวกันช่วยดูให้ค่ะ จริง ๆ แล้วหนูไม่กลัวปัญหาที่จะตามมา แต่เพราะว่าใกล้ที่สหภาพจะยื่นข้อเรียกร้องแล้ว ก็อยากให้บรรยากาศในการเจรจามันสบาย ๆ มากกว่าค่ะ ได้เกริ่น ๆ กับประธานสหภาพบ้างแล้ว รู้สึกเขาไม่พอใจมาก เหมือนกับว่าเขาเสียหน้ามาก ๆ เป็นผู้พิพากษาสมทบแต่ถูกลงโทษอะไรทำนองนี้ค่ะ  หนูไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลยค่ะ อยู่ตรงกลางเหมือนถูกอะไรบีบ รู้สึกหายใจไม่ค่อยออกค่ะ ขอบคุณท่านมากนะคะที่ให้คำปรึกษาและกำลังใจ

ใจเย็นๆ ครับ หากรู้ว่าอะไรจะเกิดแล้ว ไม่ต้องกังวลอะไร การเจรจาก็อีกเรื่องหนึ่งก็ต้องว่ากันไป ทำให้เต็มที่ใช้ความรู้ความสามารถของเรา บริหารสถานะการณ์ให้ดี ทุกอย่างก็จะดีเองครับ 

ขอบพระคุณท่านมาค่ะ หนูกำลังเจอกับสงครามความขัดแย้ง