ReadyPlanet.com


นายจ้างขู่จะฟ้องศาลว่าทำให้บริษัทเสื่อมเสีย และ ฟ้องยักยอกค่ะ ขอคำปรึกษาค่ะ


 เรียนคุณทนาย

ดิฉัยขอเรียนปรึกษาโดยเล่ารายละเอียดเบื้องต้นก่อนดังนี้ค่ะ 

ดิฉันทำงานเป็นฝ่ายประสานงานขายของเอเจนซี่บ้านเช่าสัญชาติญี่ปุ่นเป็นระยะเวลากว่า สามปี เมื่อปีที่แล้วมีเหตุการณ์ดังนี้เกิดขึ้นค่ะ 

1 ลูกค้าแจ้งประสงค์ต่อสัญญาเช่าโดยจะมีการเพิ่มค่าเช่าบ้านส่วนหนึ่งเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายเช่น ค่าน้ำค่าไฟ เช่นค่าเช่าบ้าน 60000 บาท ขอเปลี่ยนสัญญาเช่าเป็น 67000 บาท และส่วนต่างนั้นขอให้เป็น allowance ไว้ใช้ภายในหนึ่งปี เช่น ยอดใช้จ่ายต่อเดือน 6000 บาท ให้เก็บส่วนต่างไว้ใช้ในเดือนถัดไป หากค่าใช้จ่ายเกินกว่างบที่ให้ไว้ ขอให้ทางเจ้าของห้องชำระให้ก่อนแล้วเอาไปหักลบกับเดือนอื่น ตรงจุดนี้เจ้าของห้องไม่เห็นด้วย และไม่รับดำเนินการให้โดยยืนยันที่จะให้คงราคาเช่าเท่าเดิม ทีนี้ดิฉันที่เป็นนายหน้าฝั่งลูกค้าได้มีการเจรจากับนายหน้าฝ่ายเจ้าของห้อง สรุปที่ว่าจะให้ค่าดำเนินการ 500 บาทต่อเดือน เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าแล้วหาก มียอดค่าใช้จ่ายเกินลูกค้าจะชำระให้ หากมียอดเงืนเหลือทางเจ้าของห้องเก็บไว้ได้ เมื่อสรุปเช่นนี้ทางเจ้าของก็ยังไม่ยอมรับ ทางนายหน้าทั้งสองฝ่ายเจรจากันให้นายหน้าฝ่ายเจ้าของห้องรับไปดำเนินการ แต่ทางนายหน้าฝั่งนั้นก็ไม่รับทำเนื่องด้วยเป็นข้อเสนอที่ผิดแปลก ปรกติของ allowance นั้น คือเดือนชนเดือน ไม่ใช่ปีชนปี เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและจะได้จบปัญหา ทางนายหน้าทั้งสองฝั่งเห็นตรงกันว่าจะปลอมสัญญาเช่าขึ้นอีกคู่ฉบับโดยที่ลูกค้าก็รู้เห็นเป็นใจ เพราะว่าต้องการเงินตรงก้อนนี้ไปใช้จ่ายและเบิกจากบริษัทได้ สรุปที่ว่า ทางดิฉันที่เป็นนายหน้าฝั่งลูกค้ารับดำเนินการให้เองเพื่อที่จะได้จบปัญหา แต่ลูกค้าทราบเพียงแค่ว่านายหน้าฝ่ายเจ้าของห้องเป็นคนดำเนิการให้ ส่วนที่ดิฉันทำให้นั้นเป็นการตกลงฝ่ายนายหน้าเองค่ะโดยมีผู้จัดการเซลล์เจ้าของเคสรับทราบทุกครัั้ง เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่ามีเงินคงเหลือที่ 6000บาท ทางลูกค้าได้ติดต่อเข้ามากับทางผู้จัดการเซลล์ว่า จะต่อสัญญาเช่าอีก หากยอมรวมเงินคงเหลือจากปีที่แล้วมาใส่ในยอดของปีถัดไปด้วย ดิฉันไม่ยอมเเละได้มีการปรึกษากับนายหน้าอีกเจ้าหนึ่งเห็นด้วยว่าไม่ถูกต้องเพราะโดยทั่วไปแล้ว เงินallowance นั้นจะไม่คืนให้หากมียอดเหลืออีกทั้งมีการเจรจาตั้งแต่แรกแล้วจะไม่คืนให้หากมีเงินเหลือ แต่ถ้ามียอดเงินใช้เกินลูกค้าต้องชำระคืนให้ทางเจ้าของห้อง อีกทั้งสัญญาเช่าเองก็ไม่ได้ระบุว่าหากมีเงินเหลือจะคืนให้กับทางลูกค้า จีงสรุปกับทางเซลล์ไปว่า เคสนี้ขอไม่คืนเพราะคุยกันตั้งแต่แรกแล้ว 

2.ดิฉันมีปัญหากับผู้จัดการฝ่ายขายทะเลาะกันเรื่องอื่นเป็นเหตุให้เขม่นหน้ากันเลยแจ้งลาออกจากบริษัทล่วงหน้าหนึ่งเดือน ระหว่างทำงานเดือนสุดท้ายนั้น เค้าประนามดิฉันต่อหน้าพนักงานคนอื่นว่าดิฉันมีเจตนาจะโกงเงินลูกค้าดิฉันก็ได้มีการเถียงไปว่าตามทีตกลงกันไว้ไม่ใช่แบบนั้น แต่เพื่อเป็นการตัดปัญหาให้ทางเค้าไปตกลงกับทางนายหน้าอีกฝั่งหนึ่งว่าจะให้ทำอย่างไร ถ้านายหน้าอีกท่านเห็นควรว่าจะต้องคืนลูกค้า ดิฉันจะโอนเงินคืนให้กับทางนั้นไปเพราะเค้าเป็นเจ้าของเคส ผลปรากฏว่า ทางเซลล์เค้าได้โทรหานายหน้าอีกฝ่ายหนึ่ง ความว่าดิฉันยินดีจะคืนเงินให้แล้วทางดิฉันโอนเงินคืนให้แล้วหรือยัง? ทางนายหน้าเจ้านั้นก็แจ้งกลับแค่ว่ายังไม่ได้โอนและโทรมาหาดิฉัน เมื่อได้ฟังความแล้วดิฉันก็ได้แจ้งไปกับทางเซลล์ว่า เคสนี้ดิฉันไม่คืน และ นายหน้าอีกเจ้าหนึ่งก็ตกลงที่ว่าไม่ควรคืนให้เพราะเคยคุยกันแล้ว สุดท้ายทางเซลล์เลยแก้ปัญหาด้วยการ
อาข้อมูลตรงนี้ไปฟ้องทางประธานบริษัทว่าดิฉันยักยอกเงินลูกค้าให้หักเงินจำนวนนี้จากเงินเดือนงวดสุดท้ายได้เลย 


3 ฝ่ายบุคคลแจ้งว่าไม่มีทางเลือกทางบริษัทเห็นชอบให้หักเงินเดือนดิฉัน ดิฉันได้แย้งไปทางบริษัททั้งการโทรผ่านทางฝ่ายบุคคลและอีเมล์โดยตรงแต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับดิฉันรออยุ่สี่วันสุดท้ายคิดว่าไม่มีความคืบหน้าแน่จึงได้ไปแจ้งกับทางแรงงานค่ะ 

4.ทางแรงงานโทรไปหาบริษัทชี้แจงว่านายจ้างไม่มีสิทธิที่จะหักเงินที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิทธิ์ต่างๆหากลูกจ้างทำความเสียหายให้สามารถฟ้องศาลแพ่งได้ 

5.ทางนายจ้างให้ฝ่ายบุคคลคุยกับดิฉันต่อหน้าเจ้าหน้าที่แรงงานว่าจะคืนเงินเดือนที่เหลือให้ แต่เมื่อไหร่ไม่รู้และบริษัทจะทำการฟ้องร้องดิฉันเรื่องที่ทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง และ ยักยอกทรัพย์ลูกค้า 

6.เรื่องเงินเดือนที่เหลือทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะติดตามให้ค่ะ 

ดิฉันจะทำเช่นไรดีค่ะหากถูกนายจ้างฟ้องร้องจริงๆ จริงๆแล้วจำนวนเงินไม่ได้เยอะเเต่เป็นเรื่องของความรู้สึกที่ถูกเอาเปรียบมากกว่าค่ะ เรื่องฟ้องยักยอกทรัพย์ดิฉันจะติดคุกหรือถุกปรับมากไหมค่ะ

ขอบคุณค่ะ



ผู้ตั้งกระทู้ แตน :: วันที่ลงประกาศ 2012-09-01 10:09:30


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.