ดิฉันเป็นอาจารย์มหาวิยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดชายแดนใต้ ปัญหาขอดิฉันเริ่มเกิดขึ้นทางปัญหาการป่วยด้วยภาวะแท้งคุกคามตลอดการตั้งครรภ์ โดยเริ่มมีเลือดออกจากช่องคลอดตั้งแต่อายุครรภ์ได้เดือนครึ่ง ลาป่วยเพื่อพักสามวันเลือดหยุดจึงไปทำงานต่อ เลือดไหลอีก หยุดอีกอาทิตย์นึง แล้วเปลี่ยนรูปแบการสอนเป็นการแบ่งกลุ่มให้นักศึกษามาพบ เพื่อเลี่ยงการเดินและการขึ้นบันได จนอายุครรภ์สี่เดือนครึงเลือดไหลเยอะทั้งๆสดๆและเป็นก้อน จนต้องนอนโรงพยาบาลครึ่งเดือน คือตั้งแต่ 20 ธค.53 โดยแจ้งกับทางหัวหน้างานทางโทรศัพท์ และแจ้งหัวหน้าฝ่ายบุคคลด้วยวาจา และจะลาป่วยย้อนหลังในวันแรกของการทำงาน ต้นเดือนกุมภาพันธ์ดิฉันยังลุกจากเตียงไม่ได้เป็นน้ำคาวปลายังไหลออกจากช่องคลอด จึงตัดสินใจให้สามีไปติดต่อขอลาออก คณบดีแจ้งว่าเราทำผิดทางวินัยเพราะขาดราชการเกิน 15 วัน จะต้องตั้งกรรมการสอบสวนก่อน ยังลาออกไม่ได้ เราก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะคาดว่าสุดท้ายเขาคงเรียกให้ไปลาออก แต่ปรากฏว่าเรื่องเงียบหายไปนาน จนกระทั่งประมาณต้นมีนาคม ดิฉันโทรไปถามหัวหน้า กจ. ว่าเรื่องเป็นไงบ้าง ดิฉันจะไม่รอแล้วจะเข้าไปลาออกให้เรียบร้อย พี่เขาตอบมาว่า อ้าวอาจารย์ยังไม่ทราบเรื่องอีกหรือคะว่ามีคำสั่งให้ออกจากราชการเกือบครึ่งเดือนแล้ว ดิฉันโกรธมากคำสั่งออกมาได้ไง ดิฉันไม่ทราบเรื่องเลยตั้งแต่กระบวนการสอบสวน จึงไปขอหลักฐานอุทธรณ์ เข้าไปพบอธิการพร้อมคณบดี  พวกเขากลับรวมหัวกันหลอกดิฉันว่าอุทธรณอะไรกัน คำสั่งออกจากราชการยังไม่ได้ออกมาเลย เขาสงสารเรากลัวเสียอนาคต แล้วเกลี้ยกล่อมให้เราลาออก โดยลาออกย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 20 ธค. 53 เราเลยทำตามทั้งๆ ต่อมานิติกรโทรทวงเงินเดือนๆสุดท้ายที่เขาจ่ายหลังวันี่ 20 เป็นเงินสองหมื่นห้าพันบาท แล้วเรานำไปจ่าย15000 บาท เพราะขอหักกับเงินประกัน 10000 บาท เขาไม่ยอมเพราะอ้างว่าเราลาออกกะทันหัน จึงหักเงินประกัน สามีจึงไม่ยอมจ่าย นิติกรโทรมาขู่ว่าหากไม่จ่ายจะเปลี่ยนคำสั่งจากลาออกเป็นให้ออกจากราชการ ขอปรึกษาว่า

1. ดิฉันมีความผิดในกรณีนี้หรือไม่อย่างไร

2.คำสั่งลาออกสามารถเปลี่ยนเป็นให้อกจากราชการได้จริงหรือ

3. มหาวิทยาลัยมีความผิดอย่างไรบ้าง หากมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้น (เพราะหัวหน้างานเก่ามักกลั่นแกล้งลูกน้อง บางคนได้งานที่ใหม่เขายังโทรไปบล็อคจนที่ใหม่ไม่กล้ารับทำงาน)

4. ดิฉันยังติดค้างเรื่องเงินกับที่ทำงานเก่าแบบนี้ ดิฉันสามารสมัครงานที่ใหม่ได้หรือไม่คะ (อยากจ่ายคืนแต่ติดขัดเพราะดิฉันกับสามีลาออกจากงานพร้อมกัน เพื่อดูแลกันและกันช่วงป่วยยาวค่ะ)

ขอบคุณค่ะ