ReadyPlanet.com


นายจ้าง บอกสิ้นสุดสัญญาจ้าง 4เดือนให้หลัง หลังจากวันที่ยื่นใบลาออก


ผมได้ยื่นความประสงค์ขอลาออก โดยส่งใบลาออกที่พิมพ์ขึ้นเอง+เซ็นต์ชื่อให้นายจ้าง(ผู้บริหาร)ทางEmail ในเดือนสิงหาคม54

โดยเขียนเป็นภาษาอังกฤษความว่า... ผมขอแสดงความประสงค์ขอลาออกจากการเป็นพนักงานบริษัท โดยให้มีผล30วันให้หลัง จากวันที่บริษัทตัดสินใจให้ผมลาออกตามความประสงค์นี้นายจ้างตอบอีเมล์มาว่า ขอให้มาคุยกันในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเมื่อคุยกันก็เป็นการถามไถ่เหตุผลประมาณ30นาที แต่ไม่มีข้อสรุปใดๆ

เดือนต่อมา(กันยายน)ระหว่างการประชุมประจำสัปดาห์กับนายจ้าง(ผู้บริหาร) ผมจึงแทรกเรื่องนี้ในหน้าสุดท้ายของรายงานผลการทำงานประจำสัปดาห์ โดยบอกว่าหลังจากยื่นใบลาออกแล้ว ผมก็ยังคงตั้งใจทำงานเต็มที่ ซึ่งผู็บริหารก็ยังคงไม่ได้แจ้งหรือพูดว่าอย่างไร

จนกระทั่งกลางเดือนธันวาคม54 ผู้บริหารเรียกให้เข้าพบ และแจ้ง(ปากเปล่า) ขอสิ้นสุดการว่าจ้าง เนื่องจากผมขอลาออก และให้ทำงานถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์55 และบอกปากเปล่าว่าทางฝ่ายบุคคุลจะดูแลเรื่องค่าตอบแทนและเงินชดเชยให้ ซึ่งผมก็ตอบตกลง(ปากเปล่า)

จนกระทั่งเมื่อวาน ผมจึงขอเข้าพูดคุยกับฝ่ายบุคคล เพื่อขอยืนยันขั้นตอน ขอแจ้งทรัพย์สินบริษัทที่ผมใช้ในการทำงาน และขอใช้สิทธิ์ประเภทวันลาที่มีอยู่ จนกระทั่งเรื่องสุดท้ายขอยืนยันเรื่องผลตอบแทน และค่าชดเชย  ทางผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลกลับหัวเราะและบอกว่า "ก็คุณลาออกเอง จะมีค่าชดเชยได้อย่างไร"

ผมเองไม่ได้แค้นเคืองอะไร และไม่สงสัยเรื่องจริยธรรม แต่สงสัยว่าการที่นายจ้างขอสิ้นสุดการว่าจ้างเมื่อ4เดือนให้หลังนี้ ถูกต้องหรือไม่อย่างไร

จริงอยู่ที่บริษัทแจ้งผมล่วงหน้าถึง60วัน แต่การที่ผู้บริหารบอกปากเปล่าอย่างหนึ่งแต่ถึงเวลากลับไม่ทำตามที่พูดนั้น ผมคิดว่าไม่มีจริยธรรม

แต่เหตุการณ์นี้ในแง่ทางกฎหมายแรงงาน เพื่อความเป็นธรรมแล้ว ผมสามารถฟ้องร้อง หรือทำประการไดได้บ้างครับ

 

ขอบคุณมากครับ



ผู้ตั้งกระทู้ มนุษย์เงินเดือน :: วันที่ลงประกาศ 2012-02-04 14:44:59


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3275915)

1. การที่คุณทำหนังสือขอลาออกในเดือนสิงหาคม แล้วให้มีผลอีก 30 วัน หลังจากที่บริษัท ตัดสินใจให้ลาออกตามประสงค์ นั้น เป็นการสร้างเงื่อนไขการลาออกโดยตัวคุณว่า หากบริษัท อนุญาตเมื่อใด ก็นับไปอีก 30 วันหลังจากนั้น ดังนั้น เมื่อนายจ้างตัดสินใจให้ลาออกได้ในเดือน ธันวาคม 2554 ก็จะมีผลหลังจากนั้นอีก 30 วัน ซึ่งอาจเป็นเดือน มกราคม หรือกุมภาพันธ์ 2555 ก็ได้ ซึ่งการลาออกของคุณก็มีผลตามนั้นครับ

2. การลาออก ปกติก้จะไม่มีเงินชดเชยตามกฎหมายให้ ยกเว้นเงินอื่นๆ ตามระเบียบ ผู้บริหารท่านนั้น ก็อาจไม่เข้าใจว่ามีค่าชดเชยอะไรไหม แต่อาจหมายความถึงเงินเดือน หรือค่าตอบแทนอื่นๆ ก็อาจเป็นได้ เช่น เงินบำเหน็จ ฯลฯ ถ้ามี

3. การที่ฝ่ายบุคคลพูดก็ถูกครับ เพราะลาออกก็จะไม่ได้อะไร ในเชิงของกฎหมาย

4. ปกติหากพูดปากเปล่า ทุกอย่างเปลี่ยนได้หมดครับ พูดแล้วบอกไม่พูดยังมีเลย

5. หากคุณระบุชัดเจนว่า คุณจะลาออกวันไหน เมื่อถึงวันนั้นก็ออกไปเลย ไม่ต้องอนุมัติ ก็ถือได้ว่าสมบูรณ์แล้วครับ

6. ฟ้องคงลำบากครับ เพราะเงื่อนไข คุณตั้งมาเอง   

ผู้แสดงความคิดเห็น ที่ปรึกษา วันที่ตอบ 2012-02-07 12:02:29



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.