การที่นายจ้างยังไม่ตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ในระหว่างนี้ นายจ้างก็ต้องมีหน้าที่จ่ายค่าจ้างเต็ม แม้จะไม่มีงานให้ทำก็ตาม นายจ้างควรประชุมทำการชี้แจงกับลูกจ้างอธิบานถึงสถานะการณ์ และประกาศหยุดงาน แบบ อาทิตย์เว้นอาทิตย์ก็สามารถทำได้ แต่ในอาทิตย์ที่หยุดงานไปนายจ้างต้องจ่ายค่าจ้าง ร้อยละ 75 ของค่าจ้างปัจจุบัน และก่อนปิดงานต้องแจ้งพนักงานตรวจแรงงานให้ทราบล่วงหน้า 3 วันทำการ แบบนี้นายจ้างสามารถทำได้ ตามมาตรา 75 พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 หรือนายจ้างจะหยุดงานเป็นเวลา 2 เดือนก็ทำได้แต่ต้องจ่ายค่าจ้าง ร้อยละ 75 เช่นเดียวกัน หากเดือนที่ 3 นายจ้างปิดกิจหาร นายจ้างก็ต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้าง ตามมาตรา 118 ด้วยคิดตามอายุงาน และเป็นเงินเดือนก่อนที่จะลดลง

ทั้งนี้อาจเป็นเพราะนายจ้างหากเลิกจ้างไปเลยก็เสียดายคนมีฝีมือ จึงยังไม่เลิกจ้างหรืออาจเพราะไม่มีเงินพอจ่ายค่าชดเชย นายจ้างสามารถทำได้ แต่ทางที่ดีหากมีสหภาพแรงงานก็เรียกมาพูดคุยทำความเข้าใจกัน หากไม่มีก็ประชุมพนักงานทั้งหมด และมีข้อตกลงอย่างไรก็ทำเป็นหนังสือให้พนักงานลงนามยินยอมไว้ การหยุดงานสามารถหยุดเป็นส่วนๆได้ตามความจำเป็น บางส่วนมาทำงานก็ได้แต่จ่ายเต็ม

นายจ้างน่าจะต้องรีบตัดสินใจ เพราะพนักงานอาจหายไปหมด หรือหากไม่จ่ายค่าจ้างเกิน 7 วันก็ถือว่าเลิกจ้าง อาจโดนฟ้องร้องได้  

หากนายจ้างใช้มาตรา 75 นั่นก็หมายว่า เป็นสิทธิของนายจ้างที่ประกาศตามนั้น ลูกจ้างบอกไม่ยอมคงไม่ได้เพราะกฎหมายบอกว่า ให้นายจ้างแจ้งลูกจ้างและพนักงานตรวจแรงงานทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วันทำการก่อนการหยุดงาน ลูกจ้างไม่ต้องให้ความยินยอมก็ได้ ถือว่านายจ้างทำได้เลย แต่ต้องประกาศให้ลูกจ้างทราบล่วงหน้าด้วย การเรียกพูดคุยก็เพื่อให้ลูกจ้างทราบสถานะของนายจ้าง และหากลูกจ้างมีโอกาสก็ใช้ระยะเวลาช่วงนั้นหางานทำใหม่ได้ หากพนักงานที่นายจ้างสั่งให้มาทำงานต้องจ่ายค่าจ้างเต็ม 100%