ดิฉันทำงานเป็นธุรการประจำสาขา ตอนเข้าทำงานนั้นไม่มีเอกสารการว่าจ้างใด ๆ มาให้เซ็นทั้งสิ้น เมื่อถึงเวลาต้องการออกจากงานได้รับแจ้งว่าต้องแจ้งล่วงหน้า 1 เดือน ซึ่งก็ได้เขียนใบลาออกไว้แต่ไม่มีใครยอมเซ็นให้ เมือถึงวันลาออก แต่ดิฉันก็ได้ออกจากงานค่ะ วันต่อมาได้รับแจ้งว่าไม่คืนเงินประกันให้เพราะลาออกไม่ถูกต้องรวมทั้งต้องเผื่อกรณีสินค้าสูญหายด้วย ดิฉันก็โอเคค่ะ ไม่เป็นไรขอแค่เงินเดือนงวดสุดท้ายที่ทำค้างไว้เท่านั้น จนถึงกำหนดเงินออก ทางฝ่ายบุคคลแจ้งว่าระงับเงินเดือนเพราะต้องรอเช็คสต็อคของก่อน ในวันเสาร์ที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่ดิฉันออกจากงานตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคมแล้ว เพิ่งมีการเช็คสต็อกของ และในวันที่ 3 มิถุนายน ดิฉันก็โทรตามว่าสรุปเรื่องไปถึงไหนอย่างไรบ้าง ได้รับคำตอบว่า มีของหายทั้งหมดประมาณ สามพันบาท หารพนักงานห้าคน แต่ดิฉันสอบถามกับพนักงานคนอื่น ๆ แล้วไม่มีใครโดนระงับเงินเดือน หรือหักเงินใด ๆ ทั้งสิ้น มีดิฉันโดนคนเดียว สรุป เค้าบอกว่า จะจ่ายเงินให้ดิฉัน สามพันบาทเป็นค่าแรงที่เหลือ โดยมีรายละเอียดดังนี้ค่ะ

ค่าแรง 317 บาท คิดให้ 14 วันที่ทำค้างไว้  เป็นเงิน 4438 บาท

หักประกันสังคม 177 บาท หักค่าเสื้อฟอร์มเพราะทำไม่ครบปี 600 บาท

หักค่ามาสาย 50 บาท หักค่าของหาย 578 บาท เหลือ 3028 บาท

เงินประกันเค้าบอกว่าไม่คืนให้แถมบอกว่าจริง ๆ แล้วต้องหักดิฉันเพิ่มอีก สองพันบาทจึงจะครบวงเงินประกันห้าพันบาท แต่ไม่หักเพราะสงสารเห็นทำงานดี และค่าของหายนะค่ะ ดิฉันออกจากงานตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาแล้ว แต่เพิ่งมาเช็คสต็อกวันที่ 1 มิถุนายน มันถูกหรือคะหากของหายหลังจากดิฉันออก ยังต้องรับผิดชอบอีกหรือคะ

สรุปคือ เค้าทำถูกต้องใหมคะ ที่ไม่จ่ายเงินประกัน และยังหักค่าของหายอีก ดิฉันรุ้สึกว่าถูกเอาเปรียบค่ะ

สามารถฟ้องร้องเรียกคืนได้ใหมคะ และหากทำได้ มีวิธีการอย่างไรบ้างคะ รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้วย อยากทราบว่าจะได้คุ้มเสียหรือเปล่าค่ะ 

ขอบคุณมากค่ะ