คงไม่ต้องกลุ้มใจ เพราะนายจ้างมีเจตนาเลิกจ้างอยู่แล้ว คงต้องมาดูว่า สิทธิตามกฎหมายที่ควรได้คืออะไรมากกว่า

ประการแรก ไม่ต้องลงนามเอกสารการลาออก หรือใบลาออกทั้งสิ้น หากนายจ้างต้องการเลิกจ้างก็ทำหนังสือเลิกจ้างออกมา จะอ้างอย่างไรก็ว่ากันไป

ประการที่ 2 ขอหนังสือเลิกจ้างมาเพื่อประกอบการฟ้องร้อง หนังสือเลิกจ้างเป็นภาษาอังกฤษ ควรต้องแปลเป็นภาษาไทย เนื่องจากต้องขึ้นศาลไทย เอกสารที่ใช้ต้องเป็นภาษาไทยเท่านั้น

ประการที่ 3 ลองดูว่าตนเองเคยลงนามในสัญญาจ้างอะไรหรือไม่ ถ้าไม่มีสัญญาจ้าง ก็ใช้สลิปเงินเดือนมาประกอบว่าเราเป็นลูกจ้างของนายจ้าง

ประการที่ 4 สิ่งที่คุณสมควรได้รับคือ

1. ค่าชดเชยจำนวน 3 เดือน เพราะว่า กฎหมายเขียนว่า ทำงานครบ 1 ปี เข้าทำงาน 7 พย 51 ครบ 1 ปี คือ 6 พย 52 ครบ 1 ปีพอดี

2. ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า หากคุณรับเงินเดือนเดือนละครั้งทุกสิ้นเดือน ในกรณีนี้จะได้รับค่าบอกกล่าวล่วงหน้า เป็นเงินเดือน ทั้งเดือนตุลาคม และเงินเดือนทั้งเดือนพฤศจิกายน คือ การบอกกล่าวล่วงหน้าจะมีผลเมื่อถึงคราวจ่ายค่าจ้างถัดไป กรณีของคุณนายจ้างอ้างว่าครบสัญญาจ้างเพื่อที่จะไม่ต้องจ่ายเงินตัวนี้

3. ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม คือ เงินจากการเลิกจ้างที่ไม่มีเหตุที่สมควรให้เลิกจ้าง เช่นอ้างว่าหมดสัญญา โดยไม่ได้ทำสัญญาที่มีกำหนดระยะเวลาจริง ถือว่าเป็นการเลิกจ้างที่ไม่มีเหตุ เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม จะต้องได้รับค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ซึ่งหากคุณมีอายุงานประมาณ 11 เดือน ค่าเสียหายขึ้นกับศาลกำหนดตามความเหมาะสม แต่คุณจะเรียกเท่าไรก็ว่าไป

ไม่ต้องกังวลและวิตก รวบรวมเอกสารที่มีอยู่ รอจนวันสุดท้ายที่เขาให้อยู่ ไม่ต้องลงนามในใบลาออก เพราะใบลาออกจะกำจัดสิทธิที่มีอยู่ออกไปทั้งหมด ไม่สามารถฟ้องร้องอะไรได้เลย

ขอบพระคุณมากค่ะสำหรับคำแนะนำ