อยากทราบว่าหากเกิดกรณีแบบนี้ลูกจ้างจะสู้อะไรได้บ้างครับ

เรื่องราวเกิดจาก บ.ค จำกัด มีความจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานบางส่วน โดยให้สมัครใจ (และบังคับให้สมัครใจ) ในขณะเดียวกันก็มีการสั่งให้ตรวจสอบเรื่องการทุจริตในการสั่งซื้อเครื่องจักร โดยเมื่อเริ่มตรวจสอบ บ. ได้เรียกพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการสั่งซื้อ เข้าไปพูดคุย และบอกว่าเรามีมูลในเรื่องนี้ โดยมีทางเลือกให้พนักงานดังนี้

๑. เขียนใบขออาสาสมัครใจออกจากงาน จะได้สิทธิประโยชน์ทุกอย่าง

๒.หากพนักงานต้องการพิสูจน์ตัวเอง

๒.๑ ถ้าผิด โดนไล่ออก

๒.๒ ถ้าไม่ผิด บ. แจ้งว่าอาจโดนย้าย

โดยระหว่างทำการสอบสวน บ. ให้พนักงานพักงานโดยได้รับค่าจ้าง

เมื่อครบกำหนด ผลการตรวจสอบไม่พบความผิดในการณีที่ตั้งไว้ บ.ได้โยงเรื่องการโยกย้ายเครื่องจักรที่มีการสั่งห้ามเคลื่อนย้าย โดยพนักงานได้แจ้งว่ามีการโทรศัพท์ไปบอกกับผู้รับผิดชอบและได้การอนุญาติ โดยไม่มีเอกสารรองรับ เรื่องนี้จึงตกไป จากนั้น บ.แจ้งข้อกล่าวหาอีกทันที เรื่องการมีภาพโป๊ะเก็บในเครื่องคอมพิวเตอร์ในสำนักงาน โดยพนักในการว่า เมื่อครั้งเปิดงานหลังปีใหม่ เครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเองขัดข้อง และได้นำส่งแผนกไอทีซ่อม ระหว่างรอการซ่อม ได้ติดต่อขอเครื่องคอมฯ ที่ใช้งานในสายการผลิตมาใช้ โดยไม่ทราบว่ามีรูปดังกล่าวอยู่ ทำให้ข้อหานี้ตกไป จากนั้น บ.แจ้งข้อกล่าวหาต่อไปทันทีว่า พนักงานมีการส่ง email เรื่องส่วนตัว ไปยังบุคคลอื่น โดยเป็นทำผิดนโยบายที่ทางผู้บริหารได้ออกประกาศไปเมื่อประมาณเดือน กพ. 51 โดนให้เหตุผลว่าพนักงานทำการส่งหลังจากมีประกาศออกมาแล้ว (พนักงานส่งจริงประมาณเดือน เมย.51 ) พนักงานผิดจริงในข้อนี้ ผลคือให้ลาออกจากงาน

คำถามคือ

 บ. เข้าข่ายกลั่นแกล้งหรือไม่ เพราะแรกเริ่มการสอบสวนเป็นกรณีหนึ่ง และความผิดไปเป็นอีกรณีหนึ่ง ซึ่งถ้า บ. ต้องการเอาคนผิดในเรื่องการใช้ email เรื่องส่วนตัวควรทำการตรวจสอบทั้งหมด เพราะสามารถตรวจสอบได้ทันที่ว่ารายชื่อที่มีการส่ง email ไปนั้นมีการส่งต่อหรือไม่