หากไม่ยินยอมที่จะรับสวัสดิการใหม่ ก็ไม่ต้องลงนามยินยอม หากโดนบีบให้ลาออก ก็ไม่ต้องลาออก ทำงานต่อไป และต้องทำตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ไม่มาทำงานสาย ไม่ฝ่าฝืนระเบียบ นายจ้างก็ไม่สามารถทำอะไรได้ หากต้องการเลิกจ้าง ก็ต้องจ่ายค่าชดเชย ค่าบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม

การเปลี่ยนวันทำงานโดยลูกจ้างไม่ยินยอมถือว่าเป็นการเปลี่ยนสภาพการจ้าง หากสภาพการจ้างใหม่ต้องมาทำงานวันเสาร์ หากไม่มาทำงาน นายจ้างก็ไม่สามารถลงโทษทางวินัยได้

ทำงานต่อไปตามปกติ ไม่ต้องกังวลอะไรมาก หากนายจ้างต้องการเลิกจ้างใคร ก็สามารถเลิกจ้างได้ทันที แต่ต้องจ่ายเงินหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง

ตอนนี้ผมก็ถูกสั่งไม่ให้ทำงานล่วงเวลาเขาอ้างว่างานในแผนกไม่จำเป็นต้องทำ แต่คนอื่นที่ยินยอมเขาก็ได้ทำงานล่วงเวลาครับ เมื่อผมไม่ได้ทำงานล่วงเวลาก็คงจะลำบากขึ้นครับ ที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยทำผิดระเบียบวินัยแต่อย่างใด ผมได้เบี้ยขยันรายปีทุกปีครับ ที่ผมกลัวก็คือเรื่องทำงานวันเสาร์หากผมไม่มาแล้วเขาลงโทษ  ผมไม่ยอมรับและผมสามารถนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้หรือไม่ครับแล้วความยุ่งยากจะตามมาอย่างไรครับ ผมสามารถขอให้ศาลสั่งให้บริษัทเลิกจ้างผมได้หรือไม่ครับและให้เขาจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมาย เพราะหากอยู่ต่อไปก็คงจะอยู่อย่างยากลำบากครับ  ผมขอกราบขอบพระคุณท่านมากครับที่ให้ความรู้และผมสบายใจได้ระดับหนึ่งว่ายังมีคนที่เข้าใจและให้กำลังผมอยู่ครับ 

ก่อนอื่นต้องดูว่าระเบียบข้อบังคับในการทำงานของบริษัท เริ่มต้นเป็นวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ หรือวันจันทร์ ถึงวันเสาร์ หากเป็นวันจันทร์ถึง ศุกร์ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนสภาพการจ้างโดยพนักงานไม่ยินยอมไม่ได้ หากสภาพการจ้างเป็นวันจันทร์ ถึงเสาร์ และเคยอนุโลมให้ไม่ต้องทำวันเสาร์ นายจ้างก็สามารถกลับมาทำงานวันเสาร์ อีกก็สามารถทำได้

กรณีของคุณหากสภาพการจ้างเดิม คือทำงานวันจันทร์ ถึงศุกร์ หากไม่ได้มีการลงนามเปลี่ยนสภาพการจ้างใหม่ ก็ต้องถือสภาพการจ้างเดิม ซึ่งนายจ้างคงไม่ยินยอมที่จะให้มี 2 มาตรฐาน ในบริษัทเดียวกัน ก็คงทำอย่างที่คุณโดน คือ บีบออกไป เลิกจ้าง หรือจ้างออก หรือไม่มีการสั่งให้ทำงานล่วงเวลา

ในระหว่างนี้ก็พยายามหางานใหม่ทำไปด้วยดีกว่า เพราะอยู่ไปคงไม่รุ่ง เพราะนายจ้างอาจเห็นว่าหัวแข็ง และอาจก่อปัญหาภายในได้ แต่การที่นายจ้างจะลงโทษโดยอ้างว่า ละทิ้งหน้าที ไม่มาทำงานวันเสาร์ ออกหนังสือเตือน และเลิกจ้างเนื่องจากทำผิดซ้ำคำเตือน คุณก็มีทางต่อสู้โดยการฟ้องร้องในศาลแรงงาน เพราะหนังสือเตืนนั้น เป็นหนังสือเตือนที่ไม่ชอบ ซึ่งทำให้การเลิกจ้างเป็นการเลิกจ้างที่ไม่ชอบ โอกาสได้เปรียบมีสูง

แต่จะฟ้องให้นายจ้างเลิกจ้างคงไม่สามารถทำได้

อดทนทำงานต่อไป ขึ้นกับว่าใครจะทนได้นานกว่ากันเท่านั้น

ขอบคุณมากครับที่ให้คำชี้แนะ ผมคิดว่าจะหางานใหม่ไปด้วยตามที่ท่านแนะนำ และขณะเดียวกันก็ทนอยู่ไปก่อน บางทีอาจจะมีแนวทางให้ผมได้รับเงินชดเชยครับ ขอบคุณอีกครั้งครับ