การที่พนักงานเสพยาเสพติดนอกบริษัทฯ  ถามว่ามีความผิดหรือไม่  ขึ้นอยู่กับข้อบังคับฯ ของบริษัทว่ามีระบุหรือไม่ ถ้ามีระบุว่าผิดกฏข้อบังคับ และทำตามขั้นตอน  ก็ให้ออกโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยได้

ตามกฎหมายไทย ปัจจุบันถือว่า ผู้เสพยาเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัด ซึ่งการเสพนั้นอาจจะจงใจหรือหลวมตัวไปก็ได้ ดังนั้นเมื่อพบว่าลูกจ้างเสพยาเสพติด ก็ต้องมีระเบียบที่จะส่งบำบัด อาจให้เวลาบำบัดพอสมควร และมีหนังสือเตือนไว้ว่า หากเสพยาอีกและบริษัท ตรวจพบก็จะเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยได้

หากพบว่าพยักงานเสพยา เราส่งรักษา หรือบำบัดทันที ก็จะไม่เป็นอันตรายกับเพื่อนร่วมงาน

การที่จะเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยนั้น แม้จะมีระเบียบเขียนไว้ว่าเป็นความผิดร้ายแรง แต่เมื่อไปศาล อาจวินิจฉัยว่าไม่ใช่เรื่องร้ายแรงก็เป็นไปได้ ดังนั้นสมควรปรับเปลี่ยนทัศนคติไปตามสถานะการณ์

ท่านที่ปรึกษาครับ

หากพนักงานผู้นั้นทำงานอยู่กับเครื่องจักรที่เสี่ยงกับการเกิดอุบัติได้ง่าย และเมื่อพนักงานเสพยาก็ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น หากเป็นเช่นนี้บริษัทเลิกจ้างโดยไม่จ่ายเงินชดเชยได้หรือไม่เพราะระเบียบก็เขียนเอาไว้ด้วยครับ รบกวนด้วยครับ ขอบคุณมากครับ

ตามคำสั่งของสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 141/2541  ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2541 ที่มีนโยบายให้ผู้เสพยาที่สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาในฐานะผู้ป่วย โดยให้โอกาสเข้ารับการบำบัดตามความเหมาะสม โดยเป้าหมายต้องการให้เลิกยา

เราคงไม่ทราบว่า พนักงานผู้ใดเสพยาหรือไม่ จนกว่าจะตรวจพบ ดังนั้นความเสียงย่อมเกิดขึ้นตลอดเวลาและเราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครเสพยา หรือใครไม่เสพยา จนกว่าจะมีการตรวจปัสสาวะ แต่การให้โอกาสพนักงานที่จะเลิกเสพยานั้น ยิ่งสำคัญ เพราจะได้ผู้ที่สมัครใจ และจะได้กลับมาเป็นพนักงานที่ดีต่อไป

หากมีระเบียบอยู่ว่า เป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับในสถานร้ายแรงก็สามารถเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย

หากคิดว่าอาจจะทำให้บริษัท เสียหาย พนักงานเสียหาย ก็สามารถเลิกจ้างได้ แต่ไม่สามารถทำให้สถานประกอบการเป็นสถานประกอบการสีขาวได้

ท่านที่ปรึกษาครับ

หากต้องส่งพนักงานไปบำบัดยาเสพติด บริษัทต้องจ่ายค่าจ้างหรือไม่ครับ ขอขอบพระคุณมากครับที่ให้ความกระจ่าง

แต่ว่า  ถ้าเกิดระเบียบข้อบังคับเขียนไว้อย่างชัดเจน  แต่พอพนักงานได้ไปฟ้องร้อง เจ้าหน้าที่ก็จะสั่งให้จ่ายค่าชดเชยอยู่ดี  เพราะว่ากฎระเบียบดังกล่าวขัดต่อกฎหมาย  จึงไม่สามารถที่จะนำมาใช้ได้  ยกเว้นว่าตรวจค้นเจอในตัวของพนักงานเองภายในบริษัทฯ  จึงจะสามารถทำการเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยได้  แต่ถ้าเสพมาจากข้างนอกแล้วบริษัทฯ  ตรวจสารเจอในปัสสาวะ ก็ไม่สามารถเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยได้ 

ก็เลยสรุปว่า ...................................................................................งง

 ควรมีการตรวจค้นพนักงานด้วยครับ  บางที่ตรวจทั้งก่อนและเข้าโรงงานเลย  ถ้าเจอก็แจ้งตำรวจจับ

อยากพูดคุยและพบปะทุกท่านที่มีปัญหาเดียวกันนี้ เชื่อว่าหลายท่านคงเป็นผู้บริหารหรือฝ่ายบุคคล

ถ้าเป็นไปได้เรียนเชิญพบปะกันได้ที่ สมาคมตำรวจโรงงาน ต.บางโฉลง ติดถนนบางนา-ตราด กม.16 ขาออก

เรียนเชิญครับ

แล้วเวลาที่ตำรวจตรวจปัสสาวะประชาชนทั่วไปแล้วเจอเป็นสีม่วง  ทำไมประชาชนคนนั้นต้องถูกจับเสียค่าปรับหรือถูกจำคุกละคะ  ทำไมไม่ส่งไปบำบัดเหมือนที่บริษัทฯตรวจเจอ. ถ้าส่งไปบำบัดแล้งยังตรวจเจอค่อยมาจับกุมเหมือนที่ให้บริษัทฯปฏิบัติละ กฎหมายมันยังไง? 

เวลาบริษัทฯลงโทษพนักงานที่ทำผิดเสพย์สารเสพติด(ซึ่งผิดกฎหมาย) โดยให้ออกจากการเป็นพนักงานเป็นการทำผิดกฎหมายซ่ะงั้น.................

เอกสารดีๆจากเว็บไซต์   "กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์"  ครับ 

เนื้อหาของเอกสารเกี่ยวกับการตรวจสารเสพติดจากปัสสาวะครับ ซึ่งเป็นข้อมูลตั้งแต่เบื้องต้นจนเชิงลึกประมาณนึงเลยครับ มีประโยชน์มากๆ

 แร้วในข้อนี้ กะผมโดนกะตัวเองเลย คือ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไปตรวจสอบของที่ทำงานแต่ไปเจออุปกรณเสพยา(ไอช์)ชึ่งมันไม่ช่ายของผมพอรุ้งขึ้นอีกวันฝ่ายบุคคลมาเพื่อมาตรวจสารเสพติกะพนักงานทุกคนในสาขาบุคคลถามว่าใครเสพให้ยอมรับมาจากหนักได้เป่นเบาผมเลยยกมื้อแร้วบอกไปว่าพี่ครับผมเสพแต่ผมเสพที่บ้านไม่เคยยุ้งที่ทำงานแระที่เสพเพราะผมมีงานกลางคืนที่ต้องทำจากตี21.00น.ถึง5.30น.คือต้องขับรถทางไกลแต่บุคคลใหัผมออกเลยน่ะต่อนนั้นถึงความผิดครั้งแรงคือยังไม่ได้ตรวจผมยอมรับแร้วอีกอย่างของที่เจอไม่ช่ายของผมผมเสพยาบาครึ่งเม็ดเองถึงกะโดนออกเลยแบบนั้นเค้าทำถูกหรือผิดครับ  (กรุณาช่วยด้วยด้วย)

 ส่งพนักงานไปบำบัด ต้องจ่ายค่าจ้างไหมคะ

 ขอถามคับ ถ้าตรวจปสสาวะไม่พบ แต่เคยมีประวัติเสพเมื่อ4/5ปีก่อนสามารถไล่ออกไดไหมคับ

นายจ้างมีสิทธ์ตรวจปัสสาวะด้วยหรอคับ  เมื่อออกจะไดเงินชดเชยไไหมคับ