เรื่องมีอยู่ว่าทางบริษัทได้เรียกแม่ของดิฉันเข้าไปรับสภาพทุจริตโดยเตรียมใบลาออกไว้ให้มีข้อความประมาณว่าข้าพเจ้ายอมรับว่าทุจริตจริงตามที่ได้กล่าวหามา เนื่องจากมีพนักงานโกงเงินบริษัทไปจำนวนกว่า 2 แสนบาทและให้การว่านำมาใช้หนี้ให้แม่ดิฉัน แต่เรามีหลักฐานว่าเขาไม่ได้นำเงินมาใช้คืน ตรงนี้เอามาโต้แย้งได้หรือไม่ แต่บริษัทไม่มีการถามไม่มีการให้พิสูนจ์ตนก่อนไล่ออกทันที 

 ตอนที่แม่ลงลายมือในใบลาออก เจ้าของบริษัทได้กล่าวข่มขู่ว่าได้แจ้งความไว้แล้วจะดำเนินคดีให้ยอมลงชื่อในใบลาออกเสียจะได้ไม่เสียเวลา และได้พูดว่าแม่โกง   โดยการคิดเงินให้พนักงานเหมาเกินกว่าจำนวนที่พนักงานเหมาขอมา  แต่มาคิดเงินตามจำนวนที่บริษัทกำหนดจ่าย คือ

บริษัทกำหนดว่าพนักงานเหมาทำของ A ให้จ่าย 1 พันบาท แต่พนักงานเหมาจดบันทึกลงในสมุดส่วนตนที่ไม่ได้จ่าหัวว่าใบเสนอราคาว่า ทำของ A 900 บาท ต้องบอกก่อนว่า บริษัทไม่เคยเรียกพนักงานเหมาเข้ามาชี้แจ้งว่ามีสิทธิ์ได้เงินเท่าไรเพราะเป็นพนักงานใหม่ ในเมื่อแม่มีสิทธิ์โดยชอบธรรมในการคิดเงินให้พนักงานเหมาดิฉันขอถามเป็นข้อๆๆดังนี้

1 สมุดบันทึกที่มิได้จ่าหน้าว่าเป็นใบเสนอราคาเป็นเพียงบันทึกของพนักงานจะถือเอาเป็นใบเสนอราคาต่อบริษัทได้หรือไม่

2 การที่แม่ดิฉันทำใบเบิกเงิน และพนักงานเมามีการลงลายมือชื่อรับเงินตามใบเบิกที่แม่ดิฉันได้ทำการเบิกไปกับบริษัทถือเป็นหลักฐานได้หรือไม่ว่าพนักงานเหมาได้รับเงินตามจำนวนนั้นจริง

3 ดิฉันจะให้พนักงานเหมาไปลงบันทึกประจำกับตำรวจว่าได้รับเงินตามจำนวนที่ลงลายมือชื่อไปเพื่อเป็นหลักฐานในการฟ้องเรียกความเสียหายได้หรือไม่

4 การไล่ออกโดยให้ยอมรับว่าทุจริต และมอบเงินให้ 5 หมื่นบาท ไม่มีการแจ้งความเรียกค่าเสียหายทั้งๆที่ป่าวประกาศว่าโกง ว่าบริษัทเสียหาย อย่างนี้เรียกว่าเขามีเจตนาที่จะไล่ออก ทั้งๆที่ไม่มีหลักฐานเพียงพอหรือไม่

5 หากเราฟ้องบริษัท บริษัทจะฟ้องกลับว่าเราทุจริตหรือไม่