การไม่เลิกจ้างพนักงานที่ร่วมกระทำความผิดกับข้อหาเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
เมื่อลูกจ้างกระทำความผิดร่วมกันหลายคนแล้วนายจ้างเลือกที่จะเลิกจ้างลูกจ้างเพียงบางคนอาจจะด้วยเหตุที่มีผู้กระทำความผิดมากเหลือเกินหาก เลิกจ้างเสียทั้งหมดจะไม่มีคนทำงาน หรือผู้กระทำความผิดส่วนใหญ่เป็นเพียงผู้ตามมิใช่ผู้นำในการกระทำความผิดหรือจะเพราะเหตุใดก็แล้วแต่ เมื่อลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างฟ้องคดีต่อศาลอ้างเหตุว่ามีลูกจ้างอื่นอีกหลายคนที่ร่วมกรำทำความผิดด้วยกัน การที่นายจ้างไม่เลิกจ้างลูกจ้างเหล่านั้นถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม เรื่องนี้จึงมีคำถามว่า การไม่เลิกจ้างพนักงานอื่นที่ร่วมกระทำความผิดด้วยถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่ ?
การเลิกจ้างไม่เป็นธรรมตามมาตรา 49 กฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีแรงงานนั้น มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณา คือ มีสาเหตุแห่งการเลิกจ้างหรือไม่ และสาเหตุดังกล่าวมีเหตุเพียงพอแก่การเลิกจ้างหรือไม่ ซึ่งเหตุแห่งการเลิกจ้างอาจเป็นเหตุที่เกิดจากฝ่ายลูกจ้างเองหรือเหตุที่เกิดแต่ฝ่ายนายจ้างเองหรือเหตุที่เกิดจากทั้งสองฝ่ายก็ได้ ดังนั้น หากนายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างที่มีสาเหตุมาจากการกระทำของลูกจ้างที่กระทำความผิดต่อระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานและเพียงพอแก่การเลิกจ้างได้ ย่อมเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ว่าเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรมแล้ว ส่วนการที่นายจ้างจะไม่เลิกจ้างหรือลงโทษพนักงานอื่นที่ร่วมกระทำความผิดด้วยกันย่อมเป็นดุลพินิจในการบริหารจัดการของนายจ้าง อีกทั้ง การไม่เลิกจ้างลูกจ้างอื่นก็มิใช่เหตุที่ศาลจะต้องนำมาประกอบการพิจารณาคดีเลิกจ้างไม่เป็นธรรม การที่บริษัทเลิกจ้างลูกจ้างเฉพาะบางคนที่กระทำความผิดโดยมิได้ดำเนินการอย่างใดกับพนักงานอื่นที่ร่วมกระทำความผิดด้วย จึงมิใช่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม