จำเป็นต้องระบุเรื่อง ค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าในหนังสือเลิกจ้างหรือไม่ ?
เมื่อนายจ้างมีเหตุที่จะต้องเลิกจ้างลูกจ้างสิ่งที่นายจ้างต้องพิจารณาต่อไปก็คือ ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตามกฎหมายกำหนดหรือไม่ เมื่อนายจ้างพิจารณาแล้วเห็นว่าลูกจ้างมีสิทธิหรือไม่มีสิทธิก็ตามมักมีคำถามตามมาว่า นายจ้างจำเป็นต้องระบุเรื่องเงินทั้งสองรายการนี้ไว้ในหนังสือเลิกจ้างเพื่อให้ลูกจ้างทราบหรือไม่ การระบุหรือไม่ระบุมีผลทางกฎหมายอย่างไร เรื่องนี้รู้ไว้ใช่ว่าจะไม่มีประโยชน์เสียเลยจึงขอเชิญท่านเข้ามาสัมผัสบรรยากาศห้องเรียนกฎหมายแรงงานแล้วหาคำตอบเรื่องนี้ด้วยกัน
การบอกเลิกจ้างนายจ้างมีเจตนาต้องการให้สัญญาจ้างแรงงานที่มีต่อลูกจ้างเป็นอันยุติเมื่อสัญญาจ้างแรงงานระงับสิทธิและหน้าที่ที่นายจ้างและลูกจ้างพึงมีต่อกันย่อมระงับด้วย ดังนั้น การบอกเลิกจ้างจึงเป็นการกระทำที่มุ่งโดยตรงต่อการระงับสิทธิ การบอกเลิกจ้างจึงเป็นนิติกรรม เมื่อเป็นนิติกรรมการแสดงเจตนาย่อมมีผลผูกพันนายจ้างเมื่อลูกจ้างรับทราบการแสดงเจตนานั้น ดังนั้น ถ้านายจ้างบอกเลิกจ้างเป็นหนังสือข้อความที่ระบุว่าจะจ่ายเงินค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้ลูกจ้างย่อมผูกพันนายจ้างด้วยเช่นกัน แม้ลูกจ้างปฏิเสธที่จะรับหนังสือเลิกจ้างก็ตามก็ไม่เป็นเหตุให้ข้อผูกพันดังกล่าวเป็นอันยกเลิกไป หากต่อมานายจ้างปฏิเสธที่จะจ่ายเงินดังกล่าวโดยให้เหตุผลว่าเข้าใจผิดคิดว่าลูกจ้างมีสิทธิได้รับจึงระบุไว้เช่นนั้น บัดนี้ เข้าใจถูกต้องแล้วว่าลูกจ้างไม่มีสิทธิจึงขอปฏิเสธการจ่ายเงินดังกล่าว แม้จะจริงอย่างที่นายจ้างเข้าใจก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงผลของนิติกรรมได้
แล้วถ้าเช่นนี้จะไม่ระบุถึงสิทธิของเงินทั้งสองรายการไว้ในหนังสือเลิกจ้างเลยแล้วผลทางกฎหมายจะเป็นเช่นใด เรื่องนี้ขอให้รู้ไว้เสียก่อนว่าการได้รับเงินชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นสิทธิของลูกจ้างเมื่อถูกเลิกจ้างโดยมิได้เข้าเงื่อนไขยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น เพียงนายจ้างรับรู้ถึงสิทธิของลูกจ้างแล้วปฏิบัติให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดก็เป็นอันชอบด้วยกฎหมายแล้วโดยไม่จำเป็นต้องระบุไว้ในหนังสือเลิกจ้างแต่อย่างใด