รูปแบบการนัดหยุดงานและการปิดงาน
ตอนที่ 1 การนัดหยุดงานระยะสั้น
กฎหมายมิได้กำหนดรูปแบบของการนัดหยุดงานหรือปิดงานไว้ จึงต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นกรณีๆ ไป ว่าการนัดหยุดงานแบบใดชอบด้วยกฎหมาย แบบใดไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่การนัดหยุดงานที่ชอบด้วยกฎหมายนั้นจะต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย และไม่เป็นการกระทำที่มีความผิดตาม กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายอาญา หรือกฎหมายอื่น
รูปแบบการนัดหยุดงาน
1. การนัดหยุดงานระยะสั้น กฎหมายมิได้กำหนดระยะเวลาในการนัดหยุดงานไว้ ดังนั้น ลูกจ้างหรือ สหภาพแรงงาน จะนัดหยุดงานเป็นเวลาเท่าใดก็ได้ เช่น 30 นาที 1 วัน หรือหลายวันก็ได้ หรือจะหยุด 1 วัน กลับมาทำงานต่อ 3 วัน และหยุดต่ออีก 1 วัน หรือหลายวันก็สามารถกระทำได้หากได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ กฎหมาย กำหนดไว้ ซึ่งตาม พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 34 วรรคท้าย กำหนดให้แจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงาน และอีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างน้อยยี่สิบสี่ชั่วโมงนับแต่เวลาที่รับแจ้ง (คำพิพากษาฎีกาที่ 2522/2525 และ 2522/2529)
การนัดหยุดงานระยะสั้น ในลักษณะที่เป็นการกระทำซ้ำๆ กัน หรือสลับกันติดต่อกันไปตลอดวันทำงาน หรือตลอดเวลาที่ นัดหยุดงาน เช่นทำงาน 30 นาที หยุด 1 ชั่วโมง หรือทำและหยุดทุก 30 นาที หรือทำงาน 1 วัน หยุด 1 วัน สลับกันไปตลอดระยะเวลาที่นัดหยุดงาน เป็นต้น บางประเทศ เช่น ประเทศฝรั่เศส ถือว่าเป็น การนัดหยุดงาน ที่ชอบด้วยกฎหมาย เช่นกัน ถ้าการนัดหยุดงานแต่ละครั้งมีลักษณะที่ ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้เนื่องจากกฎหมายมิได้กำหนดรูปแบบการนัดหยุดงานที่ชอบด้วยกฎหมายไว้ จึงไม่อาจถือว่าการนัดหยุดงานเช่นนี้เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย หรือตามที่แจ้งการนัดหยุดงานไว้ย่อมเป็นการนัดหยุดงานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 เพราะลูกจ้างยังอยู่ในสถานที่ทำงาน และหากการกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้างแล้ว ลูกจ้างย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายแรงงานและอาจมีความผิดฐานละเมิดตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือตามกฎหมายอาญาอีกด้วย
ที่มา โดย: กิติพงศ์ หังสพฤกษ์,บทความรูปแบบการนัดหยุดงานและการปิดงาน,(วารสารศาลแรงงาน ปีที่ 11 ฉบับที่ 4 ตุลาคม-ธันวาคม 2538)น.35-43
รวมคำพิพากษาฎีกา ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 ทศวรรษที่ 2 (ปี พ.ศ. 2532-2542) น.160-162
5/5/2549