หลักในการเขียนข้อบังคับการทำงานสำหรับนายจ้าง
ตอนที่ 9
12. เขียนแล้วต้องมั่นใจว่านายจ้างหรือผู้เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติได้จริงตามที่เขียนนั้น
ข้อบังคับการทำงานถือเป็นกฎหมายภายในสถานประกอบการของนายจ้าง กฎหมายที่ดีจะต้องมีสภาพบังคับได้และผู้ที่เกี่ยวข้องให้ความยำเกรงจึงเป็นหน้าที่ของนายจ้างที่จะต้องปฏิบัติการทุกวิถีทางให้ข้อบังคับการทำงานมีความศักดิ์สิทธิ์ หากลูกจ้างคนใดฝ่าฝืนต้องจัดการอย่างเด็ดขาดไม่ละเว้น ไม่ใช้ข้อบังคับแบบดูหน้าเป็นรายๆไป แต่ลูกจ้างทุกคนต้องได้รับการปฏิบัติที่เสมอภาคกันทั้งหมดภายใต้ข้อบังคับเดียวกัน หากนายจ้างพบเห็นลูกจ้างกระทำผิดแล้วละเลยเพิกเฉยก็ดี หรือได้ลงโทษเบากว่าที่ควรจะดำเนินการตั้งแต่แรกก็ดี นายจ้างจะถือเหตุนั้นหวนกลับมาลงโทษลูกจ้างอีกไม่ได้ เพราะถือว่านายจ้างไม่ติดใจลงโทษแล้ว ปรากฏตามคำพิพากษาฎีกาที่ 2600/2526 วินิจฉัยว่า ข้อบังคับของนายจ้างระบุว่า พนักงานอาจถูกไล่ออกเมื่อ มาทำงานสาย กลับก่อนเวลาเลิกงานฯ แม้จะได้มีการตักเตือนด้วยวาจาหลายครั้ง รวมทั้งทำทัณฑ์บนเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยครั้งหนึ่ง นั้น มีความหมายว่าต้องมีการกระทำประการใดประการหนึ่งในครั้งสุดท้ายที่นายจ้างจะถือเป็นเหตุไล่ออกเกิดขึ้นด้วย จะถือเอาการตักเตือนหลายๆ ครั้งหรือการทำทัณฑ์บนมาเป็นเหตุเลิกจ้าง โดยไม่ต้องมีเหตุปัจจัยด้วยหาได้ไม่ แม้จะมีข้ออื่นระบุว่า พนักงานที่ถูกทำทัณฑ์บนเป็นลายลักษณ์อักษร หากทำผิดซ้ำอีกครั้งจะถูกลงโทษขั้นไล่ออก แต่เมื่อปรากฏว่าบางคนกระทำผิดซ้ำนายจ้างก็ไม่ได้ลงโทษไล่ออก แต่กลับตักเตือนต่อมาอีกหลายครั้ง แสดงว่านายจ้างไม่ติดใจลงโทษโดยเหตุนั้นแล้ว ดังนี้ นายจ้างจะเลิกจ้างโดยอาศัยข้อบังคับข้อนี้หาได้ไม่ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2527 วินิจฉัยว่า นายจ้างกำหนดระดับการลงโทษไว้ 4 กรณี คือ ตักเตือน ตัดค่าจ้าง ลดค่าจ้าง หรือให้ออกจากงาน อย่างใดอย่างหนึ่ง ลูกจ้างกระทำผิดฐานขาดงานนายจ้างลงโทษลูกจ้างโดยการตัดค่าจ้างตามระดับการลงโทษดังกล่าวไปแล้ว ถือได้ว่าความผิดดังกล่าวได้หมดไปโดยการลงโทษตัดค่าจ้างแล้ว ถ้าลูกจ้างมิได้กระทำผิดขึ้นใหม่อีก นายจ้างจะนำความผิดที่ได้ลงโทษลูกจ้างไปแล้วมาเป็นเหตุเลิกจ้างอีกหาได้ไม่ ด้วยตัวอย่างที่ยกมาดังกล่าว ให้นายจ้างถือเป็นคติในการปกครองลูกน้องว่า แยกแยะดีชั่วให้ชัดเจน (วัดและประเมินผล) ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว (ให้คุณ ให้โทษจริงจัง) แล้วนายจ้างจะรวยไม่รู้จบ
เรื่องโดย : เกรียงไกร เจียมบุญศรี
29/5/2549