กฎหมายกำหนดให้ลูกจ้างหญิงมีครรภ์ใช้สิทธิลาคลอดได้ไม่เกิน 90 วัน แต่ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างเท่ากับวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ไม่เกิน 45 วัน มีคำถามว่า ลูกจ้างหญิงมีครรภ์ 2 คน ใช้สิทธิลาคลอดคนละ 45 วันพอดี รายหนึ่งเป็นลูกจ้างรายวัน อีกรายหนึ่งเป็นลูกจ้างรายเดือน ในระหว่างที่ลาทั้งคู่มีวันหยุดประจำสัปดาห์ 6 วัน มีวันหยุดตามประเพณี 2 วัน รวมอยู่ด้วย ทั้งลูกจ้างรายวันและรายเดือน ต้องนำวันหยุดประจำสัปดาห์และวันหยุดตามประเพณีมาหักออกจากวันลาก่อนหรือไม่ และต้องจ่ายค่าจ้างในวันหยุดดังกล่าวอย่างไร ?
เรื่องนี้ ถ้าลูกจ้างใช้สิทธิลาคลอดเสีย 90 วัน ก็หมดปัญหาไป เพราะในวันลา 90 วัน เอาวันหยุดประจำสัปดาห์และวันหยุดตามประเพณีออกแล้ว อย่างไรเสียก็ยังเหลือวันทำงานเกิน 45 วัน การจ่ายค่าจ้างในระหว่างลาคลอดเพียง 45 วัน คงหมดปัญหาคาใจ แต่เรื่องนี้เป็นกรณีลูกจ้างไม่อยากหยุดงานมาก จึงใช้สิทธิลาเพียง 45 วัน พอดี ปัญหาจึงเกิดขึ้น คำถามจึงตามมา พลอยให้ผู้คนในวงการแรงงานทั้งนักกฎหมายและนักบริหารงานบุคคลต้องหาคำตอบกันยกใหญ่
บางท่าน เห็นว่า ในกรณีลาเพื่อคลอดบุตรที่นายจ้างต้องจ่าย 45 วันนั้น ให้คำนวณโดยแบ่งเป็น 2 กรณี คือ 1. กรณีของลูกจ้างรายวันให้คำนวณค่าจ้างของลูกจ้างคูณด้วย 45 และ 2. กรณีลูกจ้างรายเดือน ให้คำนวณค่าจ้างหารด้วย 30 วัน (หนึ่งเดือน) แล้วคูณด้วย 45 ทั้งสองกรณีนั้น ในกรณีที่ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวมีวันหยุดประจำสัปดาห์ วันหยุดตามประเพณี วันหยุดนักขัตกฤษ์ ไม่ต้องนำวันดังกล่าวมาคำนวณในการจ่ายค่าจ้างดังกล่าวด้วย เนื่องจากลูกจ้างดังกล่าวมีสิทธิได้รับเงินดังกล่าวตามกฎหมาย
เมื่อพิจารณาความเห็นดังกล่าวแล้ว พอจะสรุปได้ ดังนี้
ทั้งลูกจ้างรายวันและรายเดือน เมื่อหักวันหยุดประจำสัปดาห์และวันหยุดตามประเพณี จำนวน 8 วันออก ย่อมเหลือวันที่จะนำมาคำนวณจ่ายค่าจ้างเนื่องจากการลาคลอดได้ จำนวน 37 วัน จากวันลาทั้งหมด 45 วัน
ส่วนความเห็นที่ว่า เหตุที่ไม่นำวันหยุดมาคำนวณเนื่องจากลูกจ้างดังกล่าวมีสิทธิได้รับเงินดังกล่าวตามกฎหมายนั้น น่าจะหมายถึง ในระหว่างลาคลอดนายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างในวันหยุดตามประเพณีให้ลูกจ้างรายวันและต้องจ่ายค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์และวันหยุดตามประเพณีให้ลูกจ้างรายเดือนตามที่กฎหมายกำหนดไว้อยู่แล้ว จึงไม่ต้องนำมาคำนวณจ่ายในการจ่ายค่าจ้างในวันลาคลอดซ้ำอีก (คิดลึก)
ซึ่งหากความหมายเป็นไปตามที่เข้าใจแล้ว พอจะหาคำตอบได้ ดังนี้
กรณีลูกจ้างรายวัน จะได้ค่าจ้างเนื่องจากการลาคลอดจำนวน 37 วัน และจะได้ค่าจ้างปกติประจำงวดสำหรับวันหยุดตามประเพณีรวมอยู่อีก 2 วัน (ลูกจ้างรายวันไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์) เมื่อบวกลบคูณหารแล้วก็พอจะสรุปได้ว่า นายจ้างได้จ่ายค่าจ้างเนื่องจากการลาคลอดให้ลูกจ้างรายวัน รวม 39 วัน (37+2) จากวันลาทั้งหมด 45 วัน
กรณีลูกจ้างรายเดือน จะได้รับค่าจ้างเนื่องจากการลาคลอดจำนวน 37 วัน และจะได้รับค่าจ้างปกติประจำงวดสำหรับวันหยุดประจำสัปดาห์และวันหยุดตามประเพณีรวมอยู่อีก 8 วัน เมื่อบวกลบคูณหารแล้วพอจะสรุปได้ว่า นายจ้างได้จ่ายค่าจ้างเนื่องจากการลาคลอดให้ลูกจ้างรายนี้ รวม 45 วัน (37+8) จากวันลาทั้งหมด 45 วัน (พอดี)
ผู้เขียน เห็นว่า การให้หักวันหยุดระหว่างลาออกจากการคำนวณค่าจ้างในการลาคลอดน่าจะไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดไว้ แม้ในกรณีลูกจ้างรายเดือน เมื่อคำนวณเงินที่จ่ายทั้งหมดแล้วจะเท่ากับค่าจ้างจำนวน 45 วันตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ตาม แต่เป็นการถูกต้องในผลโดยบังเอิญเท่านั้น แต่ไม่ถูกต้องในเหตุ ส่วนในกรณีลูกจ้างรายวัน เมื่อคำนวณเงินที่จ่ายทั้งหมดแล้วคิดอย่างไรก็ได้ไม่เกิน 39 วัน จากวันลาทั้งหมด 45 วัน กรณีนี้ยิ่งไม่ถูกต้องทั้งในเหตุและในผล ความจริง เรื่องนี้กฎหมายกำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างเพียง 45 วัน ซึ่งน้อยกว่าสิทธิของลูกจ้างที่อาจลาได้ถึง 90 วัน จึงไม่มีเหตุผลใดเลยที่กฎหมายจะให้นายจ้างนำวันหยุดในระหว่างวันลามาหักออก นอกจากนี้ วันหยุดประจำสัปดาห์หรือวันหยุดตามประเพณีในระหว่างวันลากฎหมายเขาก็กำหนดให้นับวันหยุดที่มีในระหว่างลาคลอดเป็นวันลาด้วย เมื่อวันหยุดในระหว่างลาถือเป็นวันลาเสียแล้ว การคำนวณค่าจ้างในระหว่างลาจึงต้องคำนวณรวมวันหยุดที่มีด้วย
กฎหมายกำหนดสิทธิในเรื่องนี้ไว้ง่ายต่อความเข้าใจ ไม่มีความซับซ้อนใดๆ วิธีคำนวณค่าจ้างก็ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด เพียงแต่ท่านเริ่มนับตั้งแต่วันแรกที่ลานับไปเรื่อยๆหากครบกำหนดวันที่ลาหรือครบ 45 วัน อย่างใดอย่างหนึ่งที่ถึงก่อน เมื่อนั้นก็หยุดนับ แล้วจ่ายค่าจ้างเขาไปตามจำนวนวันที่นับได้ เท่านี้ก็จบเรื่องอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ท่านเคยนึกถึงแคมเปญโฆษณาขายรถยนต์ที่ว่า ซื้อรถวันนี้ รับประกันซ่อมฟรี 100,000 กิโลเมตร หรือ ไม่เกิน 5 ปี อะไรประมาณนี้ไหม เขาก็นับอย่างเดียวกับเรื่องลาคลอดนี้แหละ อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อนเมื่อนั้นก็หยุดซ่อมฟรี
.....................................................8 ส.ค 49