บอกเลิกสัญญาจ้างแล้ว แต่เรื่องนี้ไม่ได้ขอยกเลิกเหมือนเรื่องที่แล้ว แต่ขอเลื่อนเวลาให้เร็วขึ้นจากเดิมที่นายจ้างเคยบอกไว้ว่าให้การเลิกจ้างมีผลในสิ้นเดือนหน้านั้น บัดนี้ ไม่เอาแล้วมันช้าไป (ลืมไป ถ้าสิ้นเดือนหน้าอายุงานลูกจ้างครบปีพอดี ต้องจ่ายค่าชดเชยสามเดือน) ดังนั้น ขอให้การเลิกจ้างมีผลสิ้นเดือนนี้เสียเลยจะดีกว่า (ค่าชดเชยเดือนเดียว) อย่างนี้ทำได้หรือไม่ ?
น่าคิดนะ (ค่อยๆคิด อย่ารีบตอบนะ) ไหนทบทวนกันหน่อยซิ บทความที่แล้วบอกว่า การเลิกสัญญาจ้างเป็นนิติกรรมฝ่ายเดียวที่มีผลทันทีเมื่อลูกจ้างรับรู้การแสดงเจตนา จึงยกเลิกไม่ได้ ยังจำได้ไหม (จำได้จ๊ะ) แล้วบทความนี้บอกเลิกสัญญาจ้างเหมือนกัน แต่ขอเลื่อนเวลาให้เร็วขึ้นมันจะต่างกับการขอยกเลิกนิติกรรมตรงไหม ไม่ว่าจะยกเลิกทั้งหมดหรือยกเลิกบางส่วน มันก็ยกเลิกเหมือนกันนั้นแหละ (ไหนบอกหน่อยซิ มันต่างกันอย่างไร) ใจเย็นๆครับ กำลังจะบอกเดี๋ยวนี้แหละ แท้จริงแล้วต่างกัน การขอเลื่อนเวลาเลิกจ้างให้เร็วขึ้นมิใช่การยกเลิกนิติกรรม เนื่องจากนายจ้างยังประสงค์จะเลิกจ้างอยู่ เพียงแต่ต้องการเร่งเวลาให้เร็วขึ้นเท่านั้น (ใกล้สิ้นปีแล้วยอดขายไม่เข้าเป้าเลยใจร้อน) กำหนดวันที่เลิกจ้างที่นายจ้างเคยบอกไปนั้น ในทางกฎหมายเขาเรียกว่า เงื่อนเวลา ซึ่งเงื่อนเวลานี้ ระหว่างที่ยังไม่ถึงวันที่ที่กำหนดสัญญาจ้างย่อมไม่ยุติ ระหว่างนี้นายจ้างจึงต้องจ่ายค่าจ้าง และลูกจ้างต้องทนทำงานให้นายจ้างต่อไปจนกว่าจะจึงสิ้นเดือนหน้าทุกอย่างจึงจะเลิกแล้วต่อกัน (นี่แหละอิทธิฤทธิ์ของเงื่อนเวลาเขาหละ)
กฎหมายยังกำหนดต่อไปอีกว่า เงื่อนเวลาถ้ากำหนดไว้เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายใด ฝ่ายนั้นสละประโยชน์จากเงื่อนเวลาได้ ในกรณีนี้ นายจ้างเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากเงื่อนเวลา กล่าวคือ นายจ้างมีสิทธิให้ลูกจ้างทำงานต่อไปถึงสิ้นเดือนหน้าได้ สิทธิที่ว่านี้จึงเป็นประโยชน์ที่ได้รับจากเงื่อนเวลา หากนายจ้างไม่ต้องการประโยชน์จากเงื่อนเวลานี้ นายจ้างอาจสละเสียตามที่กฎหมายกำหนดได้ โดยการเลื่อนวันเลิกจ้างให้เร็วขึ้นได้เท่าที่ตนต้องการ แต่กฎหมายยังกำหนดต่อไปอีกว่า การสละประโยชน์แห่งเงื่อนเวลานั้นจะกระทำให้กระทบกระเทือนสิทธิของคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งที่ได้รับประโยชน์จากเงื่อนเวลาไม่ได้ นั้นก็หมายความว่า การเลื่อนเวลาเลิกจ้างให้เร็วขึ้นต้องไม่กระทบต่อสิทธิการได้รับค่าจ้างของลูกจ้างจนถึงวันสิ้นเดือนหน้า ดังนั้น หากนายจ้างประสงค์จะเลื่อนวันเลิกจ้างให้เร็วขึ้น นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างให้ลูกจ้างจนถึงวันที่เคยกำหนดในการบอกเลิกจ้างก็คือวันสิ้นเดือนหน้านั้นเอง
ในกฎหมายคุ้มครองแรงงานก็ได้เขียนให้สิทธินายจ้างไว้ในทำนองนี้โดยใช้หลักการสละประโยชน์จากเงื่อนเวลาเช่นกัน คือ เมื่อนายจ้างบอกเลิกจ้างล่วงหน้าแล้ว หากไม่ประสงค์จะให้ลูกจ้างอยู่ทำงานต่อไป หากยอมจ่ายค่าจ้างจนถึงวันที่การเลิกจ้างมีผลแล้วปล่อยให้ลูกจ้างออกจากงานไปทันทีย่อมกระทำได้โดยชอบ ดังนั้น คำตอบของเรื่องนี้ ก็คือ นายจ้างสามารถเลื่อนเวลาเลิกจ้างให้เร็วขึ้นได้ หากยอมจ่ายค่าจ้างส่วนที่เหลือให้ลูกจ้าง (อย่าทำหน้างงๆซิ เดี๋ยวคนเขียนก็งงตามไปด้วยหรอก)
สมบัติ ลีกัล 13 พ.ย 49