ก็บอกแล้วไง ว่ารู้ความเหมือนและความต่างของละเมิด กับ ผิดสัญญาไม่เสียเวลาเปล่า ต้องมีประโยชน์บ้างสินะ อย่างน้อยบทความเรื่องนี้ก็บอกถึงประโยชน์ที่ได้จากการรู้ถึงความเหมือนและความต่างของละเมิดและผิดสัญญานั้นก็คือ อายุความ ในกรณีกระทำละเมิดนั้น กฎหมายกำหนดอายุความให้ผู้เสียหายฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายได้ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่รู้ถึงการทำละเมิดและรู้ตัวผู้ต้องชดใช้ค่าเสียหาย หรือภายใน 10 ปี นับแต่วันทำละเมิด (จะรู้ตัวผู้ทำละเมิดเมื่อใดก็ช่าง) แต่ถ้าการทำละเมิดนั้นมีโทษตามกฎหมายอาญาด้วยแล้วอายุความอาญายาวกว่าอายุความที่กล่าวมา กฎหมายก็ให้เอาอายุความที่ยาวกว่านั้นมาบังคับใช้ได้ (นึกไม่ถึงละสิ)
ส่วนผิดสัญญานั้น กฎหมายกำหนดอายุความไว้ต่างกันแล้วแต่ว่า ผิดสัญญาเรื่องใด 3 เดือนบ้าง 6 เดือนบ้าง 1-2 ปีก็มี แต่ในที่นี้เราจะเน้นกันที่การ ผิดสัญญาจ้างแรงงาน (เรื่องอื่นไม่ค่อยถนัด) การผิดสัญญาจ้างแรงงานนั้น กฎหมายคงลืมไปหรือคิดไม่ถึงว่าวันหนึ่งข้างหน้าจะเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตจึงไม่ได้เขียนกำหนดอายุความเอาไว้ กรณีอย่างนี้ก็กฎหมายอีกนั้นแหละเขาให้ใช้อายุความ 10 ปี นับแต่ขณะที่อาจบังคับตามสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป
แล้วถ้าการกระทำเป็นความผิดทั้งละเมิดและผิดสัญญาจ้างแรงงานด้วย จะนับอายุความอย่างไร ?
การกระทำครั้งเดียวผิดทั้งข้อตกลงและกฎหมายจึงเป็นทั้งผิดสัญญาและละเมิด อายุความจึงใช้ได้ทั้งคู่ และเมื่ออายุความผิดสัญญาจ้างแรงงานเป็นประโยชน์มากกว่าผู้เสียหายย่อมอ้างอายุความผิดสัญญาเป็นประโยชน์แก่ตนในการฟ้องคดีได้โดยชอบ
..........................................สมบัติ ลีกัล 7 มี.ค 50