กฎหมายคุ้มครองแรงงาน มาตรา 17 วรรคสาม บอกไว้ว่า ในกรณีที่นายจ้างเป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญา ถ้านายจ้างไม่ได้ระบุเหตุผลไว้ในหนังสือบอกเลิกสัญญาจ้าง นายจ้างจะยกเหตุมาตรา 119 ขึ้นอ้างในภายหลังไม่ได้
ท่านทั้งหลายคงจำได้ เรื่องที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ ก็เกี่ยวกับมาตรา 17 วรรคสาม นี่แหละ ดูสิว่า เมื่อมาตรา 17 วรรคสาม เข้าสู่กระบวนพิจารณาของศาลแล้ว เขาใช้กันอย่างไร ?
นายจ้างบอกเลิกจ้างลูกจ้างตำแหน่งพนักงานการเงิน ในหนังสือเลิกจ้างบอกว่า ลูกจ้างทำเงินหายไปจากบัญชี 400,000 บาท เป็นการยักยอกทรัพย์สินของนายจ้างและจงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย ในที่สุดเรื่องนี้ไปถึงศาล คราวนี้นายจ้างยกประเด็นขึ้นใหม่ว่า การที่ลูกจ้างทำเงินหายไปจากบัญชี 400,000 บาท ถือเป็นการประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
ลูกจ้างก็อ้างว่า ข้ออ้างของนายจ้างนั้น นายจ้างมิได้ยกขึ้นเป็นเหตุผลในการเลิกจ้างตามที่ระบุไว้ในหนังสือเลิกจ้าง
น่าคิดนะ ศาลจะรับข้ออ้างของนายจ้างไว้พิจารณาพิพากษาได้หรือไม่ ?
ศาลจะรับไว้พิจารณาได้หรือไม่ ก็หนีไม่พ้นต้องหาคำตอบให้ได้ก่อนว่า ข้อที่นายจ้างยกขึ้นอ้างในศาลนั้น ถือเป็นการไม่ระบุเหตุผลไว้ในหนังสือเลิกจ้างตามความในมาตรา 17 วรรคสาม หรือไม่ ?
ข้อความที่นายจ้างยกขึ้นอ้างในศาลนั้น ไม่มีระบุไว้ในหนังสือเลิกจ้างอย่างแน่นอน หากจะหาคำตอบเรื่องนี้ สิ่งที่ต้องพิจารณาอันดับแรก คือ ข้อความที่นายจ้างยกขึ้นอ้างนั้น จำเป็นต้องระบุไว้ในหนังสือเลิกจ้างหรือไม่ ? จำเป็นหรือไม่ก็ต้องดูว่า ข้อความนั้นเป็นเหตุผลในการบอกเลิกจ้างหรือไม่ ? ถ้าเป็นเหตุผลในการบอกเลิกจ้างก็จำเป็นต้องระบุไว้ในหนังสือเลิกจ้าง มิเช่นนั้นก็จะยกขึ้นอ้างในศาลไม่ได้ หากไม่ใช่เหตุผลในการบอกเลิกจ้างก็ไม่จำเป็นต้องระบุเอาไว้ในหนังสือเลิกจ้าง จะยกมาอ้างในศาลก็ย่อมได้
เหตุผลในการบอกเลิกจ้างที่แท้จริงของเรื่องนี้ ก็คือ ลูกจ้างทำเงินหายไปจากบัญชี จำนวน 400,000 บาท ต่างหาก ตรงนี้แหละที่ทำให้ลูกจ้างต้องถูกเลิกจ้าง ส่วนการที่ลูกจ้างทำเงินหายจะถือเป็นความผิดตามระเบียบเรื่องใด ยักยอกทรัพย์สินของนายจ้าง จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย หรือ ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงการอ้างข้อกฎหมายปรับให้เข้ากับข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุผลในการเลิกจ้างเท่านั้น มิใช่เหตุผลในการเลิกจ้าง ข้ออ้างของนายจ้างจึงไม่จำต้องระบุไว้ในหนังสือเลิกจ้าง นายจ้างย่อมมีสิทธิยกขึ้นอ้างในศาลได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
ศาลต้องรับข้ออ้างของนายจ้างไว้พิจารณาและพิพากษาต่อไป
.............................สมบัติ ลีกัล 10 กรกฎาคม 2550