กรณีนายจ้างกับลูกจ้างไม่อาจทำงานร่วมกันได้อีกต่อไป หากลูกจ้างไม่ลาออกนายจ้างก็ต้องไล่ออกอย่างแน่นอน อย่ากระนั้นเลย สู้ตกลงกันเสียไม่ดีกว่าหรือ ไม่ต้องไปฟ้องร้องกันที่ศาลให้เสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ ดังนั้น ลูกจ้างจึงตกลงลาออกจากงาน นายจ้างตกลงจ่ายเงินช่วยเหลือให้ตามจำนวนที่ตกลงกัน แล้วเขียนข้อตกลงไว้ว่า ลูกจ้างไม่ติดใจเรียกร้องเงินอื่นใดอันเนื่องจากการทำงานตามสัญญาจ้างอีก 

 

ปัญหามาเกิดหลังจากลาออกไปไม่กี่วันก็ถึงกำหนดจ่ายค่าจ้าง ลูกจ้างทวงถามเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายก่อนลาออกว่า ทำไมนายจ้างถึงไม่จ่าย ?

 

นายจ้างก็ตอบว่า เหตุที่ไม่จ่าย เพราะมีข้อตกลงกันไว้ว่าลูกจ้างไม่ติดใจเงินอื่นใดอันเนื่องจากการทำงานตามสัญญาจ้างอีก เงินค่าจ้างงวดสุดท้ายก็คือเงินอื่นใดที่ลูกจ้างไม่ติดใจนั้นเอง ก็เลยไม่จ่าย

 

ลูกจ้างได้รับคำตอบแล้วไม่ถูกใจ ไปร้องพนักงานตรวจแรงงานอ้างว่า นายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างงวดสุดท้ายให้ ทำนองว่า ที่เขียนว่าไม่ติดใจเงินใดๆนั้นหมายถึงเงินอื่นใดที่มีสิทธิได้รับอยู่ก่อนทำข้อตกลง แต่มิได้หมายถึงเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายก่อนลาออกที่ยังไม่มีสิทธิได้รับเนื่องจากขณะทำข้อตกลงยังไม่ถึงเวลาจ่ายค่าจ้าง

 

กรณีอย่างนี้ พนักงานตรวจแรงงานเคยสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างงวดสุดท้ายให้ลูกจ้าง ทำนองว่า ข้อตกลงที่ว่าลูกจ้างไม่ติดใจเรียกร้องเงินอื่นใดอีกนั้น หากจะให้มีผลถึงค่าจ้างงวดสุดท้ายด้วยก็น่าจะเขียนไว้โดยชัดแจ้ง กรณีมิได้เขียนไว้โดยชัดแจ้งเช่นนี้ ย่อมเข้าใจได้ว่า มิได้หมายถึงเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายที่ยังไม่ถึงเวลาจ่ายขณะทำข้อตกลง

 

ความเห็นพนักงานตรวจแรงงานก็ฟังได้ตามสมควร เรื่องนี้จึงเป็นบทเรียนให้นายจ้างต้องระมัดระวังในการเขียนข้อตกลง ต่อไปต้องเขียนโดยแจ้งชัดจะได้ไม่เกิดข้อพิพาทเช่นนี้อีก

 

นายจ้างอาจบอกว่า ถ้าเขียนชัดนักเดียวลูกจ้างไม่ยอมเซนต์ เดี๋ยวจะตกลงกันไม่ได้ จะยิ่งยุ่งยากมากกว่า สู้เขียนอย่างนี้แล้วมาแปลความกันว่า แท้จริงแล้ว ข้อตกลงอย่างนี้หมายรวมถึงเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายด้วยหรือไม่ดีกว่า เพราะเชื่อมั่นว่า อย่างไรเสียต้องแปลความว่า รวมถึงเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายด้วยอย่างแน่นอน

 

หากนายจ้างมีเหตุผลเช่นนี้ก็ไม่ว่ากัน ก็ต้องฟันฝ่าอุปสรรคกันสักหน่อย เมื่อพนักงานตรวจแรงงานมีความเห็นเช่นนี้ นายจ้างก็ต้องฟ้องเพิกถอนคำสั่ง แล้วค่อยให้ศาลแปลความว่า ข้อตกลงหมายความรวมถึงเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายด้วยหรือไม่ ?

 

ข้อตกลงที่ว่าลูกจ้างตกลงรับเงินช่วยเหลือตามจำนวนที่กำหนดแล้วไม่ติดใจเรียกร้องเงินอื่นใดอันเนื่องจากสัญญาจ้างงานอีกนั้น ย่อมมีความหมายรวมถึงเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายก่อนลาออกด้วย เนื่องจากค่าจ้างงวดสุดท้ายก่อนลาออกเป็นหนี้เงินที่เกิดขึ้นก่อนหรือขณะทำข้อตกลง จึงถือว่าลูกจ้างไม่ติดใจเรียกร้องด้วย ส่วนขณะทำข้อตกลงยังไม่ถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างนั้น กำหนดจ่ายค่าจ้างเป็นเพียงเงื่อนเวลาที่เป็นประโยชน์ต่อนายจ้างในการไม่ต้องชำระหนี้ทันทีเมื่อลูกจ้างทำงานแล้วเสร็จเท่านั้น ดังนั้น ลูกจ้างจึงไม่มีสิทธิในค่าจ้างงวดสุดท้ายก่อนลาออก

 

                      .......................... สมบัติ ลีกัล 3 เมษายน 2551