ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างมักพากันไปร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานให้ออกคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแทนที่จะไปฟ้องคดีต่อศาลโดยทันที ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ?
การทำงานของพนักงานตรวจแรงงานนั้นรวดเร็วเสร็จสิ้นภายใน 60 วัน ไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นกันเอง ไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก ใจดีอีกต่างหาก และที่สำคัญคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานหากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามมีโทษอาญากำกับ การฟ้องเพิกถอนคำสั่งต้องนำเงินจำนวนเท่ากับในคำสั่งวางศาลเสียก่อนจึงจะฟ้องคดีได้ คงด้วยเหตุเช่นนี้กระมังจึงเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ?
มีบ่อยเหมือนกันที่พนักงานตรวจแรงงานสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้างแต่ไม่สั่งให้จ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่ในคำร้องลูกจ้างก็ขอไปด้วย ท่าทางพนักงานตรวจแรงงานจะลืมสั่ง ปัญหามีอยู่ว่า หากลูกจ้างยังติดใจเงินสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าที่พนักงานตรวจแรงงานมิได้กล่าวถึงในคำสั่ง กรณีเช่นนี้ ลูกจ้างจะต้องฟ้องเพิกถอนคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานหรือฟ้องคดีต่อศาลให้นายจ้างจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าได้ทันที ?
ฝ่ายที่หนึ่ง เห็นว่า เมื่อร้องขอให้พนักงานตรวจแรงงานสั่งให้นายจ้างจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแล้ว การที่พนักงานตรวจแรงงานไม่สั่งจะเป็นด้วยเหตุใดก็ตาม ย่อมถือเป็นการโต้แย้งสิทธิของลูกจ้างแล้ว ลูกจ้างต้องฟ้องเพิกถอนคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน หากไม่ฟ้องถือว่าลูกจ้างไม่ติดใจเงินดังกล่าว ลูกจ้างจึงไม่มีสิทธิมาฟ้องคดีต่อศาลให้นายจ้างจ่ายสินจ้างแทนการบอกล่าวล่วงหน้าได้อีก
ฝ่ายที่สอง เห็นว่า แม้จะร้องขอให้พนักงานตรวจแรงงานสั่งจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแล้วก็ตาม แต่พนักงานตรวจแรงงานมิได้สั่ง จึงไม่มีคำสั่งใดที่เป็นโทษต่อลูกจ้าง กรณีจึงไม่มีการโต้แย้งสิทธิของลูกจ้าง ลูกจ้างจึงไม่ต้องฟ้องเพิกถอนคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน ลูกจ้างจึงมีสิทธิมาฟ้องคดีต่อศาลให้นายจ้างจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าได้อีก
ต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตนเอง ท่านผู้อ่านเห็นด้วยกับฝ่ายใด เลือกข้างได้เลย จะเลือกพันธมิตรหรือรัฐบาลก็แล้วแต่ ผู้เขียนเลือกข้างฝ่ายที่สองก็แล้วกัน เหตุผลค่อยว่ากันคราวหน้า
................................................... สมบัติ ลีกัล 10 มิถุนายน 2551