ความแตกต่างระหว่างมาตรา 31 วรรคหนึ่งกับมาตรา 121(1)
1. การห้ามเลิกจ้างตามมาตรา 31 วรรคหนึ่งเป็นการห้ามเลิกจ้างไม่ว่าเพราะสาเหตุใดๆ เว้นแต่เข้าข้อยกเว้นในมาตรา 31 (1) ถึง 4 นายจ้างไม่สามารถเลิกจ้างได้ถึงแม้การเลิกจ้างมิใช่มีสาเหตุมาจากการยื่นข้อเรียกร้อง แต่มาตรา 121 (1) บัญญัติไว้ชัดเจนว่า เลิกจ้างเพราะเหตุที่ลูกจ้างยื่นข้อเรียกร้อง ถ้านายจ้างไม่ได้เลิกจ้างเพราะเหตุที่ลูกจ้างยื่นข้อเรียกร้อง ก็ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 121 (1)
2. มาตรา 31 วรรคหนึ่งคุ้มครองลูกจ้างตั้งแต่ยื่นข้อเรียกร้อง จนถึงมีการเจรจาตกลงกันหรือมีคำชี้ขาดแล้ว หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับความคุ้มครองตามมาตรา 31 วรรคหนึ่งต่อไป แต่มาตรา 121 (1) คุ้มครองลูกจ้างตั้งแต่ยื่นข้อเรียกร้องเป็นต้นไป แม้มีการเจรจาตกลงหรือมีคำชี้ขาดแล้วลูกจ้างก็ได้รับความคุ้มครองเรื่อยไป ห้ามนายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุแห่งการยื่นข้อเรียกร้องโดยเด็ดขาดนอกจากนี้ยังคุ้มครองมิให้ถูกเลิกจ้างเพราะจะทำการยื่นข้อเรียกร้องอีกด้วย
3. การยื่นข้อเรียกร้องตามมาตรา 31 วรรคหนึ่งจะต้องเป็นข้อเรียกร้องที่ยื่นโดยถูกต้องตามวิธีการและขั้นตอนของกฎหมายตามมาตรา 13 ถึง มาตรา 19 แต่การยื่นข้อเรียกร้องตามมาตรา 121 (1) นั้น ไม่ว่าได้ยื่นข้อเรียกร้องโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ถ้านายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุนี้ก็เป็นการกระทำอันไม่เป็นธรรม
4. มาตรา 31 วรรคหนึ่งไม่ใช่เป้นการกระทำอันไม่เป็นธรรม การดำเนินคดีในทางแพ่งจึงแตกต่างกับมาตรา 121 (1) ไม่มีขั้นตอนว่า ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างตามมาตรา 31 วรรคหนึ่งจะต้องไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ก่อน ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างจึงอาจไปร้องเรียนต่อกรมแรงงานหรือนำคดีมาฟ้องโดยตรงต่อศาลแรงงานได้เลย
5. การดำเนินคดีอาญาต่อนายจ้างที่ฝ่าฝืนมาตรา( 121 (1) ลูกจ้างจะต้องยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เสียก่อน จึงจะดำเนินคดีอาญาได้ (มาตรา 124,127) แต่การที่นายจ้างฝ่าฝืนมาตรา 31 วรรคหนึ่ง ซึ่งมีโทษตามมาตรา 136 นั้น ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างในระหว่างยื่นข้อเรียกร้อง ไม่ต้องไปร้องเรียนกล่าวหานายจ้างต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ก่อน จึงอาจไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนิคดีอาญากับนายจ้างได้ทันทีที่เลิกจ้าง หรือฟ้องคดีอาญาได้เองทันที
(นายประคนธ์ พันธุ์วิชาติกุล :คำอธิบายกฎหมายแรงงาน การเลิกจ้างและค่าชดเชย หน้า58-59)