กฎหมายลิขสิทธิ์บอกว่า ลิขสิทธิ์ในผลงานสร้างสรรค์ของลูกจ้างระหว่างทำงานให้นายจ้างให้ตกเป็นของลูกจ้าง นั้นหมายความว่า นายจ้างมีสิทธิใช้ผลงานของลูกจ้างได้ตราบเท่าที่ยังเป็นนายจ้างลูกจ้างกันอยู่ หากความเป็นนายจ้างสิ้นสุดลงเมื่อใด เมื่อนั้นก็ให้ระวังตัวไว้ เพราะจะใช้ได้ต่อไปเพียงเท่าที่ลูกจ้างยินยอมเท่านั้น หากลูกจ้างไม่ยินยอมแล้วยังขืนดื้อใช้ต่อไปจะมีโทษอาญา (กลัวไหม ?)
ถ้ากลัว ตอนทำสัญญาจ้าง ก็ให้เขียนข้อตกลงยกเว้นไว้ โดยให้ลิขสิทธิ์ในผลงานสร้างสรรค์ของลูกจ้างตกเป็นของนายจ้างเสียปัญหาก็จะหมดไป (ลูกจ้างออกไปแล้วก็ยังใช้ได้)
ปัญหามีอยู่ว่า ผู้ประกอบการที่จ้างลูกจ้างด้วยวิธีจ้างเหมาแรงงานมีสิทธิทำสัญญาให้ลิขสิทธิ์ในผลงานสร้างสรรค์ของลูกจ้างตกเป็นของผู้ประกอบการได้หรือไม่ ? (อยากได้)
ปัญหาแรกที่ต้องพิจารณา คือ ผู้ประกอบการที่จ้างลูกจ้างด้วยวิธีเหมาแรงงานอยู่ในฐานะนายจ้าง ตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ใช่หรือไม่ ? (มีอย่างนี้ด้วยหรือ)
คำตอบก็คือ ใช่ ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงอาจเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในผลงานสร้างสรรค์ของลูกจ้างผู้รับเหมาแรงงานได้เช่นกัน (แล้วไป)
แล้วการได้มาซึ่งลิขสิทธิ์ในผลงานสร้างสรรค์ของลูกจ้างผู้รับเหมาแรงงานกระทำได้อย่างไร ? (อยากรู้)
คำตอบก็ง่ายๆ ก็ทำสัญญากับลูกจ้างให้ลิขสิทธิ์ในผลงานสร้างสรรค์ของลูกจ้างตกเป็นของผู้ประกอบการเสีย เรื่องก็จบไป (ทำไมง่ายจัง)
แต่เรื่องไม่จบง่ายอย่างนั้น ผู้ประกอบการมักหลีกเลี่ยงที่จะทำสัญญาใดๆกับลูกจ้างผู้รับเหมาแรงงานโดยตรง จะด้วยเกรงว่าตนจะต้องรับผิดต่อลูกจ้างเหล่านั้นในฐานะนายจ้างหรือเพราะเหตุใดก็แล้วแต่ (แต่ก็ยังอยากได้อยู่)
ถ้าเช่นนั้น ผู้ประกอบการจะทำสัญญากับนายจ้างของลูกจ้างผู้รับเหมาแรงงานให้ลิขสิทธิ์ในผลงานสร้างสรรค์ของลูกจ้างตกเป็นของผู้ประกอบการได้หรือไม่ ? (น่าสนใจ)
ถามว่า ทำได้ไหม ? คำตอบก็คือ ได้ แต่ถามต่อไปอีกว่า ทำแล้วได้อะไร ? สัญญาที่ทำจะผูกพันลูกจ้างเจ้าของผลงานหรือไม่ ? (นั้นนะซิ)
คำตอบ คือ ไม่ เหตุเพราะ ลูกจ้างเจ้าของผลงานเป็นบุคคลภายนอกสัญญา มิใช่คู่สัญญาสัญญาคงมีผลผูกพันเฉพาะผู้ประกอบการกับนายจ้างผู้รับเหมาแรงงานเท่านั้น หาได้ผูกพันลูกจ้างไม่
สัญญาทำไปแล้ว (จะทำอย่างไรดี ?)
.............................................. สมบัติ ลีกัล 15 ตุลาคม 2551