ขอเลิกจ้างกรรมการลูกจ้าง กับ ค่าชดเชย
ขอเลิกจ้างกรรมการลูกจ้างต่อศาลแรงงาน โดยในคำร้องขอให้ศาลอนุญาตให้เลิกจ้างได้โดยไม่จ่ายค่าชดเชย
มีคำถามว่า เมื่อศาลเห็นสมควรอนุญาตให้เลิกจ้าง ศาลจะมีคำสั่งเกี่ยวกับค่าชดเชยว่า ให้จ่ายหรือไม่จ่ายได้หรือไม่ ?
ตอบเดี๋ยวนี้เลย คือ ไม่ได้ ศาลฎีกาบอกไว้อย่างนั้น โดยศาลฎีกาให้เหตุผลทำนองว่า ศาลมีหน้าที่แค่วินิจฉัยว่า สมควรอนุญาตให้เลิกจ้างได้หรือไม่เท่านั้น ส่วนกรรมการลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างจะมีสิทธิได้รับค่าชดเชยหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งต้องว่ากันเป็นเรื่องๆไป
เมื่อศาลฎีกาตัดสินอย่างนี้ทุกคนก็ปฏิบัติตาม โดยเมื่อขอเลิกจ้างก็จะไม่ขอเกี่ยวกับค่าชดเชย หรือ หากขอไปก็มิได้หวังผลอะไร เพราะรู้อยู่ว่า ศาลจะไม่พิจารณาให้
มีนักกฎหมายบางท่านกังขาว่า ทำไมศาลถึงสั่งเกี่ยวกับค่าชดเชยไม่ได้ในเมื่อคำขอเรื่องค่าชดเชยก็ปรากฏอยู่ในคำร้องของนายจ้าง การสั่งก็มิได้สั่งเกินคำขอซึ่งก็ถูกต้องตามวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งนำมาใช้ในการพิจารณาคดีแรงงานด้วย แล้วอย่างนี้จะผิดไปได้อย่างไร ?
ข้อกังขาที่ว่านี้ ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลเสียทีเดียว เมื่อปี 2525 ศาลแรงงานอนุญาตให้เลิกจ้างกรรมการลูกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย คดีขึ้นสู่ศาลฎีกา ศาลฎีกาก็เห็นชอบด้วย โดยถือว่า การสั่งในส่วนที่เกี่ยวกับค่าชดเชยนั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว เห็นไหม ข้อกังขานี้ครั้งหนึ่งศาลฎีกาก็เอาด้วยเหมือนกัน เพียงแต่ในเวลาต่อมาศาลฎีกาได้เปลี่ยนแนวทางและคงยึดถือแนวทางใหม่มาจนปัจจุบัน
ดังนั้น หากนายจ้างทั้งหลาย เห็นว่า การที่ศาลวินิจฉัยเพียงว่า เห็นสมควรอนุญาตให้เลิกจ้างได้หรือไม่เพียงเท่านี้เป็นการยุ่งยากเสียเวลาต้องมาขึ้นศาลเรื่องค่าชดเชยอีกรอบเป็นการไม่เหมาะสม ทุกครั้งที่ขอเลิกจ้างกรรมการลูกจ้างก็ควรขอให้ศาลสั่งเรื่องค่าชดเชยด้วย หากศาลไม่สั่งก็อุทธรณ์ขึ้นไปสักวันศาลฎีกาอาจเห็นด้วยแล้วกลับมาเดินตามแนวฎีกาปี 2525 ก็ได้ ใครจะไปรู้
................................ สมบัติ ลีกัล 29 มิถุนายน 2552