ลูกจ้างหยุดงานไปพบนิติกรที่ศาลเพื่อปรึกษาเรื่องการฟ้องนายจ้างโดยมิได้แจ้งขอลากิจเสียให้ถูกต้องตามระเบียบ ครั้นวันรุ่งขึ้นไปยื่นใบลาป่วย นายจ้างรู้ทันว่าไม่ได้ป่วยจริง มีคนเห็นว่าไปที่ศาลนั่งคุยอยู่กับนิติกรท่าทางแข็งแรงดี เลยไม่อนุญาตให้ลาป่วยแล้วยังแถมข้อหาละทิ้งหน้าที่และเลิกจ้างโดยไม่จ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าอีกต่างหาก ซึ่งคำตอบก็รู้แล้วว่า นายจ้างทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
ลูกจ้างถามว่า ระเบียบบอกว่า ละทิ้งหน้าที่วันเดียวโทษไม่ถึงเลิกจ้าง แล้วอย่างนี้ถือเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมหรือไม่ ?
นายจ้างบอกว่า ในเมื่อเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดแล้วอย่างนี้จะเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมได้อย่างไร ?
มีเหตุผลทั้งคู่ การกระทำของลูกจ้างถือเป็นการละทิ้งหน้าที่ นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตามกฎหมาย แต่การเลิกจ้างเพราะละทิ้งหน้าที่ใช่ว่าจะต้องเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรมเสมอไป
เรื่องนี้เถียงกันถึงศาลฎีกา ในที่สุด ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ระเบียบมิได้กำหนดให้การขาดงาน 1 วัน มีโทษถึงขั้นเลิกจ้าง การเลิกจ้างด้วยเหตุนี้จึงเป็นการเลิกจ้างที่ไม่มีเหตุอันสมควร เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม นายจ้างต้องจ่ายค่าเสียหายให้ลูกจ้าง
การเลิกจ้างที่ไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าจึงมิใช่เครื่องรับรองความปลอดภัยให้นายจ้างว่าจะรอดพ้นจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
การละทิ้งหน้าที่ไปศาลเพื่อปรึกษานิติกรเป็นการผิดระเบียบของนายจ้างก็จริงอยู่ แต่ก็ต้องถือว่ามีเหตุอันสมควร ใจคอนายจ้างจะให้ศาลพิพากษาว่าการไปพบนิติกรที่ศาลสมควรแล้วที่ต้องถูกเลิกจ้างอย่างนั้นเชียวหรือ ?
..................... สมบัติ ลีกัล 31 กรกฏาคม 2552