นายจ้างกับลูกจ้างตกลงกันทำสัญญาจ้างงานมีกำหนดเวลาการจ้างแน่นอน โดยฉบับแรกมีกำหนดระยะเวลาการจ้าง 11 เดือน พอครบกำหนดก็จ่ายค่าชดเชย 1 เดือน จ่ายเสร็จก็จ้างต่ออีก 11 เดือน พอครบสัญญาก็จ่ายค่าชดเชยอีก 1 เดือน ทำสัญญาอย่างนี้รวม 4 ฉบับ จ่ายค่าชดเชยแล้ว รวม 4 เดือน พอครบสัญญาฉบับที่ 4 คราวนี้ไม่ต่อสัญญาอีกต่อไป เลิกแล้วเลิกเลย
ลูกจ้างถามว่า นายจ้างจ่ายค่าชดเชยถูกต้องตามกฎหมายแล้วหรือ ?
ทำไมถึงถามอย่างนั้น ลูกจ้างตอบว่า เขาทำงานต่อเนื่องเรื่อยมารวมเวลาได้ 3 ปี กว่าๆต้องนับระยะเวลารวมกันแล้วจ่ายค่าชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด นั่นคือ 6 เดือน การที่นายจ้างจ่ายค่าชดเชยทุกครั้งที่สิ้นสุดสัญญาเป็นการหลีกเลี่ยงกฎหมาย เพื่อให้ลูกจ้างได้ค่าชดเชยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด จ่ายอย่างนี้จะถูกต้องได้อย่างไร ?
เหตุผลของลูกจ้างก็น่าคิดเหมือนกัน ?
พอหันไปถามนายจ้าง นายจ้างก็ตอบว่า ที่กฎหมายให้นับระยะเวลาทุกสัญญารวมกันนั้น หมายถึง กรณีที่นายจ้างมีเจตนาหลีกเลี่ยงกฎหมาย เพื่อมิให้ลูกจ้างได้สิทธิตามที่กฎหมายกำหนดไว้ การที่นายจ้างจ่ายค่าชดเชยให้ทุกครั้งที่เลิกสัญญาเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย มิใช่การหลีกเลี่ยง ส่วนค่าชดเชยที่ได้รับมากหรือน้อยก็เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด จ่ายอย่างนี้แหละ ถูกต้องแล้ว ?
เหตุผลของนายจ้างก็น่าคิดเหมือนกัน ?
แล้วอย่างนี้ใครผิด ใครถูก ?
การที่นายจ้างจ่ายค่าชดเชยให้ทุกครั้งที่สิ้นสุดสัญญา แท้จริงแล้ว เป็นการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด หาใช่การหลีกเลี่ยงกฎหมายตามที่ลูกจ้างอ้างแต่อย่างใดไม่ นายจ้างจึงปฎิบัติถูกต้องแล้ว ดังนั้น ค่าชดเชยที่ลูกจ้างได้รับจึงชอบแล้ว แม้ค่าชดเชยจะน้อยกว่าหากนำไปเทียบตามวิธีการที่ลูกจ้างคิดก็ตาม
ลองคิดให้ไกลกว่านี่สักหน่อย หากนายจ้างทำสัญญาฉบับละ 11 เดือน สัก 11 ฉบับ นายจ้างก็ต้องจ่ายค่าชดเชยรวม 11 เดือน ทั้งที่ลูกจ้างมีอายุงานรวม 10 ปี กว่าๆ ซึ่งตามกฎหมายจ่ายค่าชดเชยแค่ 10 เดือนเท่านั้น
หากเป็นเช่นนี้ ลูกจ้างจะตอบว่าอย่างไร ?
................................ สมบัติ ลีกัล 26 กุมภาพันธ์ 2553