การลาเพื่อฝึกอบรมนั้นมีบัญญัติไว้ในกฎหมายคุ้มครองแรงงาน นั่นย่อมหมายความว่า ลูกจ้างมีสิทธิลาได้ นายจ้างต้องอนุญาต แต่กฎหมายมิได้บัญญัติไว้ว่า นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างหรือไม่ นั่นย่อมหมายความว่า นายจ้างจะจ่ายค่าจ้างหรือไม่ย่อมเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับการทำงานหรือเป็นไปตามข้อตกลงหรือสัญญานั่นเอง
หากระเบียบข้อบังคับการทำงานหรือข้อตกลงหรือสัญญาบอกว่า ไม่ต้องจ่าย ผลก็คือ ไม่ต้องจ่าย
ที่ว่าไม่ต้องจ่ายนั้น พอเข้าใจอยู่ แต่น่าจะมีผลเฉพาะกับลูกจ้างรายวัน เนื่องจาก ลูกจ้างรายวันได้รับค่าจ้างเฉพาะวันที่มาทำงาน วันใดไม่มาทำงานก็ไม่ได้รับค่าจ้าง การลาไปฝึกอบรมสำหรับลูกจ้างรายวันย่อมไม่ได้รับค่าจ้าง แต่สงสัยว่า กับลูกจ้างรายเดือนจะไม่ได้รับค่าจ้างจริงหรือ ?
ทำไมถึงสงสัยเช่นนั้น ?
เหตุที่สงสัยเช่นนี้ เพราะ ลูกจ้างรายเดือนนั้นนายจ้างจ่ายค่าจ้างโดยเหมาตลอดทั้งเดือน แม้ลูกจ้างละทิ้งหน้าที่บ้าง นายจ้างก็ยังคงต้องจ่ายค่าจ้างเต็มเดือน การที่ลูกจ้างลาไปฝึกอบรมถูกต้องตามระเบียบมิใช่การละทิ้งหน้าที่ก็น่าจะได้ค่าจ้างตามปกติ
ข้อสงสัยเช่นนี้มีเหตุมีผล ก็อยากให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน คนละทิ้งหน้าที่กลับได้ค่าจ้าง คนลาตามระเบียบกลับไม่ได้รับค่าจ้าง ดูจะไม่ยุติธรรมเลย
แท้จริงแล้ว ลูกจ้างรายเดือนที่ละทิ้งหน้าที่แล้วได้รับค่าจ้างนั้น เป็นเพียงแนววินิจฉัยของศาลฎีกาที่อาศัยเหตุผลที่ว่า ลูกจ้างรายเดือนนั้นเหมาจ่ายค่าจ้างตลอดเดือน ในเมื่อนายจ้างไม่มีข้อตกลงในการไม่จ่ายค่าจ้างในวันที่ลูกจ้างละทิ้งหน้าที่ นายจ้างจึงต้องจ่ายค่าจ้างเต็มเดือนนั้นเอง
ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า เหตุที่ลูกจ้างรายเดือนละทิ้งหน้าที่แล้วได้ค่าจ้างนั้นเป็นเพราะไม่มีข้อตกลงในเรื่องนี้ไว้นั่นเอง ซึ่งต่างกับกรณีระเบียบข้อบังคับการทำงานที่กำหนดให้ลูกจ้างที่ลาเพื่อฝึกอบรมไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้าง ซึ่งกรณีนี้ ถือว่ามีข้อตกลงหรือสัญญาเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้ว ดังนั้น สัญญาย่อมต้องเป็นสัญญา ลูกจ้างที่ลาเพื่อฝึกอบรมจึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้าง แม้จะเป็นลูกจ้างรายเดือนก็ตาม
.................................... สมบัติ ลีกัล 30 มีนาคม 2553