ตำรวจชอบส่งสายสืบไปล่อซื้อยาเสพติดจากผู้ค้าเมื่อได้หลักฐานแล้วจึงจับตัวไปสอบสวนแล้วส่งให้อัยการฟ้อง อัยการก็ฟ้อง ศาลก็ลงโทษ นายจ้างเลยเอาบ้าง ส่งคนไปล่อซื้อสลากกินรวบกับลูกจ้าง ครั้นพอลูกจ้างขายให้ก็เลยเลิกจ้างเสียเลย อ้างว่า เล่นการพนันซึ่งเป็นความผิดต่อระเบียบกรณีร้ายแรง ก็เลยเกิดเป็นเรื่องขึ้นศาล
มีปัญหาบนศาลว่า พยานหลักฐานที่เกิดจากการล่อซื้อเป็นพยานหลักฐานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ศาลแรงงานรับฟังเพื่อนำมาเป็นโทษต่อลูกจ้างได้หรือไม่ ?
ไม่มีคำพิพากษาในคดีอาญาว่า ลูกจ้างกระทำความผิดอาญาฐานเล่นการพนัน ศาลแรงงานมีสิทธิฟังข้อเท็จจริงว่า ลูกจ้างเล่นการพนันได้หรือไม่ ?
ปัญหาเรื่อง ล่อซื้อ นั้นเป็นเพียงวิธีการแสวงหาพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์การกระทำความผิดของลูกจ้างเท่านั้น มิใช่เป็นการป้ายสีหรือยัดเยียดความผิดให้ลูกจ้าง วิธีการล่อซื้อมิได้ฝ่าฝืนต่อกฎหมายหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พยานหลักฐานที่ได้จากการล่อซื้อจึงชอบด้วยกฎหมาย ศาลแรงงานย่อมรับฟังให้เป็นโทษต่อลูกจ้างได้
ขอให้ทำความเข้าใจเสียก่อนว่า การพิจารณาคดีแรงงานกับคดีอาญานั้นไม่เกี่ยวข้องกัน แม้มูลเหตุแห่งคดีจะเกี่ยวกันก็ตาม การพิจารณาคดีแรงงานจึงไม่จำต้องรับฟังข้อเท็จจริงตามคดีอาญา มีบ่อยไปที่ศาลในคดีอาญาตัดสินไปทางหนึ่งแต่ศาลในคดีแรงงานตัดสินไปอีกทางหนึ่ง ดังนั้น ข้อกล่าวหาที่ว่า ลูกจ้างเล่นการพนันซึ่งเป็นความผิดอาญานั้นไม่ว่าจะมีการฟ้องในคดีอาญาหรือไม่จึงไม่สำคัญ ศาลแรงงานย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาไปตามที่เห็นสมควรได้ หากศาลเห็นว่า ลูกจ้างเล่นการพนันจริง ศาลย่อมมีอำนาจนำข้อเท็จจริงดังกล่าวมาฟังเป็นโทษต่อลูกจ้างได้
................. สมบัติ ลีกัล 30 กรกฎาคม 2553