มีบ่อยครั้งที่นายจ้างต้องการให้ลูกจ้างพ้นจากการทำงานโดยที่ลูกจ้างมิได้กระทำความผิดใดๆ นายจ้างมักใช้วิธีเจรจาให้ลูกจ้างลาออกแลกกับการรับเงินช่วยเหลือพิเศษโดยเทียบเคียงแล้วอาจเท่ากับหรือมากกว่าค่าชดเชยตามกฎหมาย หรือบางรายอาจน้อยกว่าค่าชดเชยด้วยซ้ำไป ขึ้นอยู่กับความสามารถในการเจรจา หากลูกจ้างไม่ยอมลาออกนายจ้างก็จำเป็นต้องเลิกจ้างโดยยินยอมจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย เมื่อได้รับข้อเสนอเช่นนี้ ลูกจ้างควรเลือกอะไรดี ?
กรณีลูกจ้างลาออกนั้น ผลที่ลูกจ้างได้รับก็ คือ เงินที่ได้รับถือเป็นเงินได้พึงประเมินต้องนำไปคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุดพักผ่อนประจำปีตามสัดส่วนในปีที่ลาออก ไม่มีสิทธิได้รับสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ขอรับเงินทดแทนกรณีว่างงานจากประกันสังคมได้ร้อยละ 30 ของค่าจ้างเป็นเวลาไม่เกิน 3 เดือน หากนายจ้างผิดนัดไม่ชำระเงินตามข้อตกลงลูกจ้างต้องฟ้องคดีต่อศาลเพื่อบังคับให้นายจ้างรับผิดตามสัญญาได้วิธีเดียว โดยนายจ้างต้องรับผิดในดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันทวงถามหรือวันฟ้อง การจงใจไม่จ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษไม่มีเงินเพิ่มและไม่มีโทษอาญา ไม่มีบุริมสิทธิหากจำเป็นต้องบังคับคดีเพื่อชำระหนี้ไม่มีสิทธิพิเศษที่จะขอรับชำระหนี้ได้ก่อนเจ้าหนี้อื่น ไม่อาจร้องขอให้พนักงานตรวจแรงงานออกคำสั่งให้นายจ้างจ่ายเงินช่วยเหลือตามข้อตกลงได้ เนื่องจาก เงินช่วยเหลือมิใช่เงินตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
กรณีนายจ้างเลิกจ้างนั้น ผลที่ลูกจ้างได้รับก็ คือ เงินที่ได้รับหากไม่เกินสามแสนบาทลูกจ้างได้รับยกเว้นไม่ถือเป็นเงินได้จึงไม่ต้องนำมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีสิทธิได้รับค่าจ้างแทนวันหยุดพักผ่อนประจำปีในปีที่เลิกจ้างตามสัดส่วน มีสิทธิได้รับสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ขอรับเงินทดแทนกรณีว่างงานจากประกันสังคมได้ร้อยละ 50 ของค่าจ้างเป็นเวลา 6 เดือน หากนายจ้างผิดนัดไม่ชำระค่าชดเชย นายจ้างต้องรับผิดในดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันเลิกจ้าง หากการไม่ชำระเป็นการจงใจนายจ้างต้องรับผิดในเงินเพิ่มร้อยละ 15 ทุก 7 วัน หากต้องบังคับชำระหนี้ค่าชดเชยได้รับบุริมสิทธิไม่น้อยหน้าหนี้ภาษีอากร มีสิทธิแซงคิวรับชำระหนี้ได้ก่อนเจ้าหนี้อื่น การไม่ชำระค่าชดเชยมีโทษอาญา นอกจากมีสิทธิฟ้องศาลบังคับให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยได้แล้ว ลูกจ้างอาจร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานให้สั่งให้นายจ้างจ่ายเงินค่าชดเชยได้ อีกทางหนึ่ง หากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานมีความผิดอาญาอีกต่างหาก
เห็นความแตกต่างหรือยัง เมื่อจำเป็นต้องเลือก ลองคิดดูสิ ท่านควรเลือกอะไร ?
.................................................. สมบัติ ลีกัล 8 ตุลาคม 2550